🔷นายกรัฐมนตรี เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “SEAL STOP SAFE” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ร่วมแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด🔷

เมื่อวันที่ : 30 ม.ค. 2568 16:36
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
242 ครั้ง

นายกรัฐมนตรี เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “SEAL STOP SAFE”
ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ร่วมแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด
------------------------------   
วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “SEAL STOP SAFE” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดพิธีฯ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศเป็นอย่างมาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงได้กำหนดพื้นที่เร่งด่วนในการสกัดกั้นยาเสพติดใน 14 จังหวัด  รวม 51 อำเภอชายแดน 76 สถานีตำรวจ 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานกล่าวเปิดในพิธีฯ เน้นย้ำรัฐบาลจะแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นควบคุมการลักลอบนำเข้า และตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ ให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันปฏิบัติในการสกัดกั้น หรือการปิดกั้นชายแดน ไม่ให้ยาเสพติดหลุดรอดเข้ามาในประเทศ ในห้วงระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม) และต้องการเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมในพื้นที่ชายแดน

โดยเขื่อมั่นอย่างยิ่ง ว่านโยบายยาเสพติดทำได้จริงเห็นผลได้จริง เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนในประเทศชาติ หากตัดปัญหายาเสพติดไป ก็จะทำให้คนไทยกลับมามีศักยภาพอีกครั้ง

หลักจากพิธีเปิดปฏิบัติการ ผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวมอบนโยบายการดำเนินงาน ตามบทบาทและภารกิจของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิบัติการได้เข้าใจในบทบาทภารกิจมากขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ยังได้ถึงสถานการณ์ มาตรการ และตัวชี้วัดประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวชายแดน ความเป็นมา รวมถึงตัวชี้วัดหลัก 4 ตัวชี้วัด ได้แก่
1. ร้อยละของผลการสกัดกั้นยาเสพติดในจังหวัดชายแดนที่นำเข้าผ่านอำเภอชายแดนเปรียบเทียบกับผลการจับกุมยาเสพติดทั้งประเทศ ที่นำเข้าผ่านอำเภอชายแดนเป้าหมาย ร้อยละ 90
2. ผลการปราบปรามจับกุมผู้ค้าและเครือข่ายการลักลอบลำเลียงและค้ายาเสพติดตามเป้าหมาย ร้อยละ 90
3. ผลการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ร้อยละ 100
4. ผลการตั้งกำลังประชาชนของหมู่บ้านตามแนวชายแดนในการป้องกัน เฝ้าระวังยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเป้าหมาย ร้อยละ 90

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปิดพิธี เน้นย้ำภารกิจนี้ ถือว่าเป็นเดิมพันที่มีความท้าทายอย่างมาก ที่จะทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด ขอให้ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ยึดหลักกฎหมาย นิติรัฐและนิติธรรมเป็นหลักในการทำงาน และจะมีการกำหนดตัวชี้วัดการดำเนินงานอย่างชัดเจน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองทัพ ในการประเมินผลภายใน และให้สถาบันวิชาการในพื้นที่ประเมินผลในภาพรวมแต่ละอำเภอ สถานการณ์ยาเสพติดจะต้องลดลง ความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการทางานภาครัฐเพิ่มขึ้น และความปลอดภัยในขีวิตของประชาชนสูงขึ้น และนำความมั่นคงและความผาสุกกลับคืนสู่ประชาชน

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ