วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 เวลา 09.30 – 12.00 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีกำหนดนำคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เปิดรับฟังปัญหาและให้คำปรึกษาด้านต่างๆ แก่ประชาชน เช่น การให้คำปรึกษาด้านยาเสพติด การเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดโดยสมัครใจ การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันยาเสพติด รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแสยาเสพติด การให้ความรู้ด้านกฎหมาย การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท      การคุ้มครองสิทธิของประชาชน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ แชร์ลูกโซ่ เป็นต้น ณ มัสยิดดารุลอิบาดะห์ ชุมชนวังโสม เขตบางกะปิ พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชุมชนริมคลองหัวหมากน้อย และชุมชนใกล้เคียง โดยประชาชนสามารถแจ้งปัญหาและขอเข้ารับคำปรึกษาได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร และกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ที่มาร่วมช่วยประชาชนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วย
     ชุมชนริมคลองหัวหมากน้อยนับเป็น 1 ใน 201 ชุมชนที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด เป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดทั้งค้ารายย่อย และขายปลีกให้กับผู้เสพ ซึ่งผู้มีพฤติการณ์มีทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชน แต่ส่วนใหญ่มาจากชุมชนใกล้เคียง โดยผู้ค้าใช้พื้นที่ในชุมชนเป็นจุดซื้อขายยาเสพติด โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดของเส้นทางสัญจรในชุมชน มีพฤติการณ์ขายทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างเปิดเผย ซึ่งบางรายเคยมีประวัติกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และยังมีพฤติการณ์อยู่ ซึ่งมีความพยายามขยายตลาดด้วยการชักชวนเด็กเยาวชนที่ไม่ได้เรียนหนังสือให้ขายยาเสพติด โดยให้ผลตอบแทนเป็นยาเสพติดให้เสพและให้เงินใช้จ่าย โดยกลุ่มเด็กเยาวชนเหล่านี้ไม่ได้รับการดูแลจากผู้ปกครอง และหากผู้ค้ารายใดถูกจับก็จะมีผู้เข้ามาค้าแทนในระยะเวลาไม่นาน สำหรับกลุ่มผู้เสพส่วนใหญ่ก็เป็นผู้เสพรายเก่าที่อาศัยในพื้นที่ชุมชนและใกล้เคียง ยาเสพติดหลักที่แพร่ระบาดในพื้นที่ คือ ยาบ้า กระท่อม และกัญชา ซึ่งยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแนวโน้มปัญหายาเสพติดในพื้นที่คือการเกิดผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชน โดยมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ชักชวนให้เด็กและเยาวชนซึ่งอาศัยในและนอกชุมชนส่งยาเสพติดเพื่อเป็นการหารายได้และการให้ยาเสพติด ด้วยเหตุนี้พื้นที่ชุมชนริมคลองหัวหมากน้อยจึงถูกกำหนดให้เป็น 1 ในพื้นที่ปฏิบัติการ 201 หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดภัย ไร้ยาเสพติด ตามข้อสั่งการและข้อห่วงใยของพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้เร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรุงเทพมหานคร เป็นต้น
       โดยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดกองบัญชาการตำรวจนครบาล สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก กองกำกับการสุนัขและม้าตำรวจ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ดำเนินการปราบปรามและจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดระดับแพร่ระบาดที่สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นบุคคลเป้าหมายที่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชุมชนริมคลองหัวหมากน้อยตามข้อร้องเรียนของประชาชน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย ควบคุมตัวผู้เสพได้ 15 ราย (เป็นเยาวชน 3 ราย) และยังมีการลงพื้นที่เพื่อดำเนินการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติด
ยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาตามคำสั่ง คสช.ที่ 108/2557 อย่างต่อเนื่อง
      พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ข้อมูลว่า กระทรวงยุติธรรมมีความห่วงใย และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ถ้าเราสามารถแก้ปัญหายาเสพติด และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่ระดับชุมชน เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหาในระดับสังคมและประเทศได้เช่นกัน ในวันนี้ได้นำคณะผู้บริหารจากกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวง ศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ และสำนักงาน ป.ป.ส. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ชุมชนสัมพันธ์ป้องกันภัยยาเสพติด ซึ่งเป็นศูนย์สำหรับรับเรื่องราวร้องเรียน และร้องทุกข์จากประชาชนในชุมชนริมคลองหัวหมากน้อยและชุมชนใกล้เคียง เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่าง สน.หัวหมาก สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเยี่ยมเยียนเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่แม่เคยต้มน้ำกระท่อมใส่ขวดนมให้ดื่ม หลังแม่ของเด็กซึ่งถูกจับได้ในปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในยุทธการ “หมู่บ้านชุมชนปลอดภัย ไร้ยาเสพติด” เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนี้เด็กหญิงคนดังกล่าวได้รับการเลี้ยงดู และอาศัยอยู่กับย่าในละแวกใกล้เคียง และเยี่ยมเยียนติดตามการดูแลเยาวชน 11 ราย ที่พักอาศัยอยู่รวมกันหลังพ่อแม่ของทั้งหมดถูกจับกุมในคดียาเสพติดในปฏิบัติการฯ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเช่นกัน สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนจากครอบครัวผู้ถูกจับดำเนินคดีไร้คนดูแล โดยได้ประสานโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครรับเด็กและเยาวชนจากครอบครัวผู้ถูกจับดำเนินคดีเข้าเรียน ประสานเจ้าหน้าที่จากฝ่ายพัฒนาสังคมและฝ่ายสิ่งแวดล้อม รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. เข้าดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็ก ซึ่งทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะได้รับเยาวชนเหล่านี้ไว้ในความดูแลต่อไป นอกจากนี้ยังมีการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน และวางมาตรการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำ ดำเนินการต่อผู้ค้า ผู้เสพ/ผู้ติด และโดยเฉพาะผู้หลบหนีหมายจับการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดในชุมชนที่ยังคงหลงเหลือเพื่อนำเข้าสู่การบำบัดรักษาโดยการจัดตั้งศูนย์ชุมชนสัมพันธ์ป้องกันยาเสพติดในชุมชนขึ้น ซึ่งในอนาคตเราสามารถใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินการแบบเดียวกันในชุมชนอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนได้เป็นภาพกว้างอีกด้วย