วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558 เวลา 09.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการเชื่อมเครือข่ายข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดอาเซียน ภายใต้ ASEAN-NARCO (The ASEAN +3 Workshop on Drug Monitoring Network of the ASEAN-NARCO) โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบไปด้วยผู้แทนจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ ประเทศกัมพูชา บรูไน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เมียนมา ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และประเทศไทยรวมทั้งประเทศคู่เจรจา 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมทั้งผู้แทน UNODC สำนักงานเลขาธิการอาเซียน นักวิชาการจากเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติด โดยจัดการประชุมในระหว่างวันที่ 22 – 24 มิถุนายน 2558 ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค ถนนราชปรารภ กรุงเทพฯ
          จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในปัจจุบันอันเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของนานาชาติและมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะการค้ายาเสพติดในภูมิภาคอาเซียน จากนโยบายการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การขยายเขตความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งและการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ เงินทุน มีการลงทุนและแรงงานอย่างเสรี เพื่อให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน ปัจจัยดังกล่าวกลับส่งผลให้แนวโน้มปัญหายาเสพติดทวีความรุนแรงขึ้น และจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนและแรงงานอย่างเสรีนี้ ยังส่งผลให้การลักลอบลำเลียงยาเสพติดระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนทำได้ง่ายและสะดวกขึ้นอีกด้วย
          นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส.  กล่าวว่า เมื่อปี 2557 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ส. อาเซียน (ASEAN Narcotics Cooperation Center) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ASEAN-NARCO ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกและเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ดังกล่าว จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ประเทศอาเซียนต้องมีความพร้อมด้านงานข้อมูลและสารสนเทศที่ในการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. จึงเป็นผู้ประสานให้เกิดความร่วมมือด้านการพัฒนาข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในลักษณะเครือข่าย (Networking) ภายใต้ ASEAN-NARCO ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่มีการยกระดับความสำคัญเพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ การประเมินสถานการณ์ เชื่อมโยงข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติการก้าวสู่แผนการพัฒนาฯ ระยะที่ 2 จนนำไปสู่การจัดตั้งศูนย์เครือข่ายข้อมูลเฝ้าระวังยาเสพติดอาเซียนในท้ายที่สุด ซึ่งสอดรับกับภารกิจการปฏิบัติงานของสำนักงาน ป.ป.ส. อาเซียน ที่ต้องการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดอาเซียน เพื่อการแลกเปลี่ยนและแจ้งเตือนสภาพปัญหายาเสพติดในกลุ่มประเทศอาเซียน และเกิดการเชื่อมโยงข้อมูลยาเสพติดของประเทศสมาชิกในรูปแบบเครือข่าย ซึ่งการเชื่อมโยงข้อมูลยาเสพติดในรูปแบบเครือข่าย กำหนดแผนการพัฒนาไว้ 3 ระยะ ได้แก่
          ระยะที่ 1 แสวงหาข้อตกลงร่วมกัน : เพื่อให้ประเทศในภูมิภาคอาเซียนเห็นประโยชน์จากระบบข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด และเกิดความเห็นพ้องร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายและร่วมกันกำหนดกรอบข้อมูลที่จะจัดทำร่วมกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มีการจัดทำ ASEAN Drug Report และจัดทำแผนปฏิบัติการ (Work Plan) เพื่อก้าวสู่การพัฒนาฯ ระยะที่ 2 ร่วมกัน
          ระยะที่ 2 การพัฒนาความร่วมมือ : เพื่อให้ประเทศสมาชิกร่วมกันกำหนดแนวทางการเชื่อมข้อมูลยาเสพติดที่เกิดจากการเห็นพ้องร่วมกัน ทั้งระบบ กลไก ช่องทางการแลกเปลี่ยนข้อมูล และกำหนดตัวบุคลากรในการอำนวยการประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด รวมถึงกำหนดแผนการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน
          ระยะที่ 3 การพัฒนาฐานข้อมูลเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด : พัฒนาข้อมูลตามแนวทางการพัฒนาความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การสร้างฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศยาเสพติดในภูมิภาคอาเซียน             มีการกำหนดแผนการพัฒนาบุคลากรในภูมิภาคอาเซียนในการเชื่อมโยงใช้ประโยชน์ข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดร่วมกัน รวมถึงการพัฒนาข้อมูลไปสู่การจัดตั้ง Center of Excellent เพื่อการตรวจพิสูจน์สารเสพติดและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในภูมิภาคอาเซียน
          นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความพร้อมของข้อมูลยาเสพติดดังกล่าว จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเทศสมาชิกที่จะใช้ประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน จนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ข่ายงานการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตลอดจนเป็นข้อมูลบ่งชี้แหล่งผลิตยาเสพติดเพื่อนำไปสู่การทำลายและขจัดต้นตอของปัญหายาเสพติดต่อไป นอกจากนี้ยังใช้เป็นข้อมูลในการจัดแผนปฏิบัติการ (Work Plan) เพื่อก้าวสู่การพัฒนาระบบข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดร่วมกันในภูมิภาคอาเซียน”