สำนักงาน ป.ป.ส. ขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด100 รายการ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

​           วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2558 เวลา 10.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดงานขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดประเภทที่ไม่เหมาะสมกับการเก็บรักษาและประเภทที่ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประกอบด้วยรถยนต์หรู เช่น LAMBORGHINI PORSCHE BMW AUDI BENZ รถบัส รถกระบะ รถยนต์เก๋ง  เรือยนต์ รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) และจักรยานยนต์ รวม 100 รายการ รวมราคาประเมินทรัพย์สินเบื้องต้นกว่า 50 ล้านบาท ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)           มหกรรมการขายทอดตลาดทรัพย์สินครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 16 ของปีงบประมาณ 2558 (1 ตุลาคม 2557 - ปัจจุบัน) โดยที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดให้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินในคดียาเสพติดประเภทต่างๆ ได้แก่ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ และอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง ประมาณเดือนละ 1 - 2 ครั้ง รวมทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดทั้งสิ้นกว่า 1,500 รายการ รวมมูลค่าที่ได้รับจากการขายทอดตลาดทั้งสิ้น 71,522,420 บาท โดยการขายทอดตลาดทรัพย์สินในครั้งนี้ เป็นการนำทรัพย์สินที่ยึดไว้ระหว่างดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีสภาพไม่เหมาะสมในการเก็บรักษา และทรัพย์สินที่ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประกอบด้วยรถยนต์ เรือยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวม 100 รายการ มูลค่าประเมินเบื้องต้นกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนเป็นทรัพย์สินในคดีผู้ต้องหารายสำคัญ เช่น1. คดีของเครือข่ายในพื้นที่ภาคกลาง ผู้ต้องหาที่ลักลอบสั่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อปี 2555 พร้อมยาบ้า 3,600 เม็ด และไอซ์ 112 กรัม แต่ได้หลบหนีในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าตรวจค้นและจับกุม ได้ของกลางยาบ้า 1,769,000 เม็ด และไอซ์ 36 กิโลกรัม และได้ยึดทรัพย์สินที่มีเหตุสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจำนวนหลายรายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 20 ล้านบาท2. คดีของ ผู้ต้องหานักค้ายาเสพติดรายสำคัญในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเครือข่ายฯ กระจายอยู่ทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยทำการติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากผู้ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2557 เจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมนายกรทอง หรือจีเป้ง ลีสายเกิด กับพวก พร้อมยาบ้า 3,000,000 เม็ด และทำการสืบสวนขยายผลออกหมายจับ ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และต่อมาเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2557 ได้บูรณาการกำลังปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายฯ และทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 20 ล้านบาทในส่วนของทรัพย์สินคดียาเสพติดที่นำมาขายทอดตลาดรายการสำคัญในวันนี้ ประกอบด้วย1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ LAMBORGHINI ราคาประเมินทรัพย์สิน 13,500,000 บาท2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ PORSCHE ราคาประเมินทรัพย์สิน 4,000,000 บาท3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BMW ราคาประเมินทรัพย์สิน 1,600,000 บาท4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ AUDI ราคาประเมิน 1,550,000 บาท5. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BENZ ราคาประเมิน 800,000 บาท6. รถโดยสารไม่ประจำทาง ยี่ห้อ ISUZU ราคาประเมิน 1,800,000 บาท7. รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อ DUCATI ราคาประเมิน 550,000 บาท         นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “การขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมรณรงค์ เนื่องในเดือนแห่งการต่อต้านยาเสพติดโลก (มิถุนายน)  โดยสืบเนื่องมาจากมาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย ตามยุทธศาสตร์การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ต้องการควบคุมสกัดกั้นยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่มีการนําเข้า - ส่งออกจากประเทศไทย และมุ่งหวังทําลายเครือข่ายการค้าและเส้นทางการเงินของนักค้ายาเสพติดทุกระดับโดยทรัพย์สินต่างๆ ที่นำมาขายทอดตลาดเป็นการรวบรวมจากการยึดอายัดทรัพย์สินจากหลายๆ คดี นอกจากนั้นทรัพย์สินบางส่วนเป็นทรัพย์สินที่ยึดอายัดได้จากการดำเนินยุทธการขยายผลตัดวงจรการเงินเครือข่ายยาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหมือนเช่นทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา (ครั้งที่ 1 ดำเนินการ 6 - 9 พ.ค. 58 และครั้งที่ 2 ดำเนินการ 12 - 14 มิ.ย. 58) ในส่วนของเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินในครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะเก็บรักษาไว้รอกระทั่งคดีถึงที่สุด หากศาลมีคำสั่งริบทรัพย์สิน เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดดังกล่าวจะตกแก่กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อใช้สนับสนุนภารกิจด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยรวมของประเทศ แต่หากศาลมีคำสั่งให้คืนทรัพย์สิน สำนักงาน ป.ป.ส. จะนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดส่งมอบคืนแก่ผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับกิจกรรมการขายทอดตลาดทรัพย์สินครั้งต่อไป สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนดให้มีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558 โดยเป็นการขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภททองรูปพรรณและเครื่องประดับ จำนวน 141 รายการ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามและดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ สำนักงาน ป.ป.ส. www.oncb.go.th”           ทั้งนี้นับตั้งแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ. มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 จนถึงปัจจุบัน มีการตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดไปแล้ว 32,605 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 17,972 ล้านบาท และศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ในคดียาเสพติดตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแล้วรวม 4,315 ราย มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1,900 ล้านบาท