วันพุธที่ 11 มีนาคม 2558 เวลา 13.30 น. สำนักงาน ป.ป.ส. จัดประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ครั้งที่ 3/2558 โดยมี นางสาวนิภาพร รุจนรงค์ ผู้ตรวจการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองประธานกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน เป็นประธาน นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อพิจารณาสำนวนคดีตรวจสอบทรัพย์สิน จำนวน 245 คดี ทรัพย์สินจำนวน 806 รายการ รวมมูลค่า 100.91 ล้านบาท ณ ห้องประชุมกฤษณะ ผลอนันต์ สำนักงาน ป.ป.ส.
การประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาสำนวนคดีตรวจสอบทรัพย์สิน จำนวน 245 คดี ทรัพย์สินจำนวน 806 รายการ รวมมูลค่า 100.91 ล้านบาท โดยมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดียาเสพติดและผู้เกี่ยวข้องจำนวน 207 คดี ทรัพย์สินจำนวน 675 รายการ รวมมูลค่า 80.64 ล้านบาท โดยมีคดีที่สามารถขยายผลเข้าตรวจค้นยึดและอายัดทรัพย์สินของนายหน่อคำนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเขตลุ่มแม่น้ำโขง/ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงรายที่ 380/2547 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2547 ในความผิดฐานร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักร และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีนและเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และต่อมาถูกทางการจีนจับกุมตัวได้และถูกตัดสินประหารชีวิตไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 ซึ่งทรัพย์สินของนายหน่อคำที่ถูกยึดในครั้งนี้ เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย จำนวน 4 แปลง มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
สำหรับการประชุมครั้งนี้ สำนักงาน ปปส.ภาค/กทม. ได้นำเสนอคดีที่มีมูลค่ามากที่สุดให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพิจารณาตามลำดับ ได้แก่
- อันดับที่ 1 พื้นที่ สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด และสำนักงาน ปปส.กทม. จำนวน 36 คดี มูลค่า 36,809,928.69 บาท
- อันดับที่ 2 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 5 (เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน) จำนวน 40 คดี มูลค่า 26,120,000 บาท
- อันดับที่ 3 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 9 (ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล)จำนวน 22 คดี มูลค่า 3,419,000 บาท
- อันดับที่ 4 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 4 (กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี) จำนวน 12 คดี มูลค่า 3,350,000 บาท
- อันดับที่ 5 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 8 (กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง
สุราษฎร์ธานี) จำนวน 31 คดี มูลค่า 3,239,000 บาท
- อันดับที่ 6 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 1 (ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง) จำนวน 22 คดี มูลค่า 2,124,299.83 บาท
- อันดับที่ 7 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 2 (จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว) จำนวน 20 คดี มูลค่า 1,662,783.54 บาท
- อันดับที่ 8 พื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 6 (กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี) จำนวน 31 คดี มูลค่า 1,655,000 บาท
- อันดับที่ 9 พื้นที่ สำนักงาน ปปส. ภาค 7 (กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี) จำนวน 21 คดี มูลค่า 1,601,000 บาท
- อันดับที่ 10 พื้นที่ สำนักงาน ปปส. ภาค 3 (ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ) จำนวน 10 คดี มูลค่า 661,271 บาท
โดยในจำนวนนี้มีคดีที่มีมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดเกินกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 12 คดี รวมมูลค่า 54,144,149.85 บาท
นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน มีมติให้นำทรัพย์สินที่ยึดและอายัดไว้ จำนวน 7 คดี มูลค่าทรัพย์สิน 1,816,050 บาท ไปดำเนินการบังคับโทษปรับ ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 โดยนำทรัพย์สินของผู้ต้องหาไปชำระค่าปรับตามคำพิพากษา ของศาล รวมทั้ง มีมติให้นำทรัพย์สินที่ยึดและอายัดไว้ จำนวน 1 คดี มูลค่า 400,000 บาท ส่งให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542