วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558)เวลา 13.30 น. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส./ โฆษก สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วย พันเอก วรดร วรกิตติเดชากร ผู้บังคับการกองพันทหารสารวัตร กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางไอซ์ 25 กิโลกรัม ที่สามารถจับกุมได้บริเวณ ถนนเพชรเกษม (ขาออก) เยื้องห้างเทสโก้โลตัส จังหวัดนครปฐม ณ อาคาร 2 ชั้น 1 สำนักงาน ป.ป.ส.
วานนี้ เวลา 14.30 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับ ศูนย์รักษาความปลอดภัย และกองพันสารวัตรทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันจับกุม 6 ผู้ต้องหารายสำคัญ ประกอบด้วย
1. นายจะโต๊ะ จะโล อายุ 49 ปี ที่อยู่ 134 หมู่ 13 ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ (ชาวเขาเผ่ามูเซอ)
2. นายธวัช คำเงิน อายุ 39 ปี ที่อยู่ 69/1 ม.7 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย
3. นายทวีศิลป์ ศรีทน อายุ 40 ปี ที่อยู่ 211 ม.16 ต.สันทราย อ.ฝาง จ. เชียงใหม่
4. นายพรเทพ เณรทอง อายุ 45 ปี ที่อยู่ 138 ม.4 ต.บ้านสาง อ.เมือง จ.พะเยา
5. นายขจรศักดิ์ อารีเอื้อ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 78/14 ม.8 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา
6. นางสมใจ สุวรรณขำ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 86/5 ม.3 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา
พร้อมของกลาง ไอซ์ 25 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ผค 6354 สุราษฎร์ธานี โดยสามารถจับกุมได้บริเวณ ปั้มแก็ส LPG ถนนเพชรเกษม (ขาออก) ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยทั้ง 5 คนไม่เคยมีประวัติถูกจับกุมคดียาเสพติดมาก่อน ยกเว้น นายธวัช คำเงิน (ผู้ต้องหาที่ 2) เคยถูกสถานีตำรวจภูธรแม่จัน จังหวัดเชียงราย จับกุมในข้อหาเสพยาบ้า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปยังพนักสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากปฏิบัติการตามแผนแม่น้ำโขงปลอดภัย ซึ่งประเทศไทยร่วมกับ 3 ประเทศ ได้แก่ จีน เมียนมา และ สปป. ลาว เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สำนักงาน ป.ป.ส. จึงร่วมกับ บก.รน. สืบสวนพบว่า นายจะโต๊ะ จะโล (ผู้ต้องหาที่ 1) ชาวเขาเผ่ามูเซอ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากเครือข่ายชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจัดหายาเสพติดมาจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคใต้ โดยซุกซ่อนมากับถังไอศครีมเข้าเก็บพักในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีนายธวัช คำเงิน (ผู้ต้องหาที่ 2) เป็นผู้เก็บรักษายาเสพติดก่อนส่งมอบให้ลูกค้า ส่วนผู้ต้องหาที่ 3-6 ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดจากจุดเก็บพักส่งลูกค้า
จากการสืบสวนต่อเนื่องทราบว่า ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 นายจะโต๊ะฯ นัดหมายให้นายทวีศิลป์ฯ ที่บริเวณห้างเทสโก้โลตัส สาขานครปฐม ถนนเพชรเกษม ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อลำเลียงยาเสพติดที่ซุกซ่อนในตู้เย็นอำพรางเป็นลักษณะการย้ายบ้านไปส่งมอบให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังสังเกตการณ์ ณ จุดนัดหมาย จนถึงเวลา 12.15 น. พบนายจะโต๊ะฯ เดินออกจากห้างเทสโก้โลตัส ไปที่ปั้มแก็ส LPG ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วเข้าไปพูดคุยกับนายทวีศิลป์ฯ และพวกที่จอดรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ผค 6354 สุราษฎร์ธานี มีตู้เย็นบรรทุกอยู่ท้ายรถกระบะ รออยู่ จากนั้นนายจะโต๊ะฯ จึงเดินแยกออกมาส่วนนายทวีศิลป์ฯ และพวกได้ขับรถ คันดังกล่าวออกไป มุ่งหน้าไปทางจังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวนายจะโต๊ะฯ พร้อมพวกและรถกระบะคันดังกล่าว หลังตรวจค้นภายในรถพบไอซ์จำนวน 25 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในตู้เย็นที่บรรทุกอยู่ท้ายกระบะ ทั้งนี้ นายธวัชฯ ให้การว่า ซุกซ่อนยาเสพติดในถังไอศครีมจากพื้นที่ภาคเหนือ โดยนำมาเก็บพักที่บ้านของตนเลขที่ 96/2 ม.5 ตำบลวังยาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารเหนือ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบไอซ์ 1 ถุงเล็ก วางอยู่บนชั้นวางทีวี และไอซ์ 1 ถุงใหญ่ ซุกซ่อนในขวดยาวางอยู่ ในห้องนอน น้ำหนักรวม 8 กรัม และถังไอศรีมเปล่า 2 ถัง และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเพื่ออายัดบัญชีเงินฝากธนาคารต่อไป
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. /โฆษกสำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า “จากการปฏิบัติการตามแผนแม่น้ำโขงปลอดภัย ซึ่งประเทศไทยได้รับความร่วมมือจาก 3 ประเทศลุ่มน้ำโขง ได้แก่ จีน เมียนมา และสปป.ลาว ในเชิงรุก ตามนโยบายของท่านพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำให้การรวบรวมข้อมูลยาเสพติดของแต่ละประเทศ เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และนำไปสู่การประสานข้อมูลในทางลับเพื่อสกัดกั้นจับกุมนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดจากแนวชายแดนได้ และ เป็นที่น่าสังเกตว่าชาวเขาเผ่ามูเซอ ในพื้นที่ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเป็นตัวการสำคัญในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยเคลื่อนย้ายจากภาคเหนือ มายังกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และนำไปส่งต่อให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะมีการนำยาเสพติดมาเก็บพักในพื้นที่ปริมณฑลใกล้กรุงเทพฯ โดยให้เครือข่ายเป็นผู้เก็บรักษา ยาเสพติด เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อก็จะโทรติดต่อให้เครือข่ายที่เป็นผู้เก็บรักษายาเสพติดนำไปส่งให้ลูกค้าตามจำนวน ที่สั่งซื้อ ซึ่งหลายเครือข่ายได้พัฒนาตนเองจากผู้ลำเลียงเป็นผู้ค้ายาเสพติด พื้นที่นำเข้าหลักยังคงเป็นพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ (เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน) และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือรองลงมาตามลำดับ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับแหล่งเก็บพักยาของกลุ่มผู้ผลิตและ เป็นเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อยในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าจับตาทุกเครือข่าย และมีการสืบสวนทางการข่าวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การลักลอบลำเลียง ไม่สามารถรอดพ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ในที่สุด