เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 เวลา 10.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย หรือ Safe Mekong Coordination Center ( SMCC) โดยมีผู้แทนจาก 4 ประเทศ ประกอบด้วยนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. นายอัน กว๋าจุน รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน นายบุญปอน สิริวง รองเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ พ.ต.อ. มิ้น เต็ง รองเลขาธิการร่วมคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาสพติด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ร่วมพิธีและร่วมหารือเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน
ทั้งนี้ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย หรือ Safe Mekong Coordination Center ( SMCC) ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในโครงการปฏิบัติการสืบสวนร่วมต่อต้านเครือข่ายการค้ายาเสพติดตามลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้ชื่อ ‘ปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ระยะที่ 2′ ของ 4 ประเทศ คือ จีน ลาว เมียนมาร์ และไทย ซึ่งอยู่ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการข่าว จุดรวบรวม และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนประสานงานเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ทั้งประสานข้อมูลในทางลับเพื่อสกัดกั้นและจับกุมนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศสมาชิก มายังแหล่งกระจายและแหล่งผลิตยาเสพติดที่เบื้องต้นพบว่ามีอยู่ 2-3 กลุ่มใหญ่
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ทั้ง 4 ประเทศ จะเพิ่มปฏิบัติการลาดตระเวนทางน้ำในแม่น้ำโขง ตั้งจุดสกัดตามช่องทางและเส้นทางต่างๆ โดยฝ่ายจีนจะเน้นสกัดสารตั้งต้นไม่ให้เข้ามาในเมียนมาร์ ส่วนเมียนมาร์จะเน้นสกัดไม่ให้ยาเสพติดลงสู่แม่น้ำโขง ในขณะที่ลาวกับไทยสกัดไม่ให้ยาเสพติดที่มาจากแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งไปยังแหล่งพักของทั้งสองประเทศ ซึ่งปฏิบัติการทำลายเครือข่ายของนายหน่อคำเมื่อปี 2556 หรือ ‘หน่อคำโมเดล’ จะถูกนำมาเป็นต้นแบบในปฏิบัติการครั้งนี้ นอกเหนือจากการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่เอกสิทธิ์แม่น้ำโขงทั้ง 4 ประเทศ “เราจะใช้โมเดลหน่อคำทำลายเครือข่ายยาเสพติดของ พ.ท.ยี่เซ ที่มีบทบาทมากขึ้นในระยะหลังนี้ให้ได้ เพราะการสกัดกั้นและตรวจยึดยาเสพติดที่ผ่านมาของไทยทำได้เพียง 10% ของยาเสพติดที่ถูกลักลอบเท่านั้น อีก 80% หายไปไหน ซึ่งจากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะทำการสกัดกั้นให้เกิดความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น”
นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า หลังจากนี้เมียนมาร์จะเริ่มดำเนินการตั้งจุดสกัดกั้นทั้งทางบกและทางน้ำ 9 พื้นที่ปฏิบัติการ ลาว 10 พื้นที่ ไทย 8 จังหวัด 29 จุด ในจังหวัดเชียงราย 4 จุด และที่เหลือในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนจีนจะเน้นสกัดกั้นไม่ให้สารตั้งต้นเข้ามาในแหล่งผลิตในเมียนมา พร้อมทั้งสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดเข้าจีนและลงสู่ช่องทางแม่น้ำโขง และป้องกันไม่ให้ยาเสพติดที่ลำเลียงผ่านแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งไทยและลาวได้ ทั้งนี้สถิติ 3-4 ปีที่ผ่านมา มียาเสพติดผ่านเข้าทางแม่น้ำโขงเฉลี่ยปีละ 10 ล้านเม็ด ปี 2557 ปีเดียวยาเสพติดเพิ่มเป็น 20 ล้านเม็ด จึงต้องเร่งปฏิบัติการร่วมกัน โดยที่ประชุมรายงานว่า เส้นทางเรือผ่านแม่น้ำโขงตลอด 295 กิโลเมตร มีจุดท่าเรือใหญ่ที่มีการลอบนำยาเสพติดผ่านมากที่สุด บริเวณท่าเรือสบหลวย เขตปกครองที่ 4 รัฐฉาน ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว