เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 57 เวลา 09.30 – 12.00 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. รอง ผบช.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ศึกษาดูงาน ณ สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลี (Supreme Prosecutors’ Office : SPO) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของสาธารณรัฐเกาหลี ได้ร่วมหารือข้อราชการกับผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดไทยและเกาหลี โดยทั้งสองหน่วยงานยืนยันความร่วมมือที่มีต่อกันมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดระบบการแก้ไขปัญหายาเสพติดของภาครัฐ จากนั้นก็ได้ร่วมศึกษาศูนย์ National Digital Forensic Center ภายใต้การกำกับดูแลของ SPO
           เริ่มจากศูนย์เครือข่ายข้อมูลด้านการสืบสวนสอบสวน   (Investigation Network) ของรัฐบาลเกาหลี ระบบการบริหารข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร ข้อมูลการวิเคราะห์หลักฐานเพื่อใช้ประโยชน์ในการสืบสวน และรับฟังการนำเสนอจากหน่วยงานสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมจากการใช้คอมพิวเตอร์ (Cybercrime Investigation Department-CID) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์ สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมของภาครัฐที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ ศึกษาโครงสร้างการดำเนินงานและการบริหารจัดการข้อมูล โดยผู้บริหาร ปปส. ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และเสนอขอให้ CID พิจารณาให้ผู้แทน ปปส. ได้มาศึกษาแนวทางการดำเนินงานของ CID เพื่อปรับใช้ในการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติด
        จากนั้นได้ร่วมศึกษาห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ผลทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ DNA (DNA Analysis Lab.) ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานการทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อการวิเคราะห์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเกาหลี พร้อมกับได้รับฟังการนำเสนอจากผู้แทนจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลทางเคมี (Forensic Chemistry Lab.) ซึ่งจากตัวอย่างที่ได้ทำการวิเคราะห์ผลทำให้ทราบสถานการณ์ยาเสพติดในเกาหลี โดยตัวยาที่ใช้มากในเกาหลีเป็นอันดับหนึ่งคือ ไอซ์ นอกจากนี้ได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน ผ่านทางการแลกเปลี่ยนตัวยาที่มีการจับกุมได้ ซึ่งทาง SPO แสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดนี้แต่ก็ให้ข้อคิดเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก หากยังไม่มีการจัดทำมาตรฐานของฐานข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการร่วมกัน ซึ่ง SPO เสนอให้มีการพิจารณาระบบฐานข้อมูลที่ใช้อยู่ในปัจจุบันของ FBI ในสหรัฐอเมริกา เป็นตัวแบบฐานข้อมูลสำหรับประเทศที่สนใจจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน
          ในวันเดียวกัน เวลา 13.30 – 15.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. รอง ผบช.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ศึกษาดูงาน ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลี (Korean National Police Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลเกาหลี ในการนี้คณะผู้แทนไทย ได้รับฟังการนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ปัญหายาเสพติดและนโยบายด้านยาเสพติดของรัฐบาลเกาหลี การจัดโครงสร้างของการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ พร้อมทั้งแนวนโยบายสำคัญในปี ค.ศ. 2014 ทั้งนี้ ผู้แทนทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างกว้างขวาง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีได้จัดทำโครงการ Radio Frequency Identification (RFID) ซึ่งเป็นการตรวจสอบวัตถุต่าง ๆ โดยใช้คลื่นความถี่เพื่อสแกนวัตถุต่าง ๆ ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจค้นวัตถุต้องสงสัยเพื่อเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นและเป็นแนวทางการสกัดกั้นการรั่วไหลของเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติเกาหลีด้วย
         จากนั้น เวลา 16.00 – 18.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. รอง ผบช.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ศึกษาดูงาน ณ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลี (National Intelligence Service - NIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองของภาครัฐที่ได้สนับสนุนข้อมูลการข่าวให้สำนักงาน ป.ป.ส. อย่างต่อเนื่อง  จนสามารถนำไปสู่การจับกุมการลักลอบขนส่งยาแก้หวัดชนิดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟรดรีนล็อตใหญ่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ทั้งนี้ทั้งสองหน่วยงานยืนยันความร่วมมือที่มีต่อกันและยินดีที่จะสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพต่อไป
 นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวขอบคุณ NIS ที่ได้ให้การสนับสนุนทุนฝึกอบรมด้านการข่าวให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จากสำนักปราบปรามยาเสพติด จำนวน 4 นายในระหว่างวันที่ 12-16 ต.ค. 57พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนหารือแนวทางการดำเนินความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวร่วมกันในระยะต่อไป นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยได้ร่วมศึกษาดูงานหน่วยงานข่าวกรองด้านการก่อการร้าย (Joint Counter Terrorism Situation Room) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของ NIS ที่ดำเนินงานข้อมูลการข่าวสำหรับเฝ้าระวังการก่อการร้ายในเกาหลี พร้อมกับได้แสดงห้องปฏิบัติการแบบ Hi-Tech ของหน่วยงานข่าวกรองฯ อันประกอบด้วยการศึกษาข้อมูล real time โดยใช้ฐานข้อมูลจากข้อมูลดาวเทียมในการติดตามข้อมูลการข่าวและความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ