วันนี้ (17 ส.ค. 57) เวลา 10.30 น. นายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พลตรี ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 พร้อมด้วย พันเอก กันต์ชัย ประจวบอารีย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ พันโท ยุทธนา สุนทรมณี ผู้บังคับการกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 รักษาพระองค์ พลตำรวจตรี สมจิตร กาญจนะสันเทียะ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ร้อยตำรวจเอกหญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง. และนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่การค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำบลเพนียด อำเภอโคกสำโรง โดยกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายผู้ค้ายาเสพติด 62 ราย ซึ่งผลการปฏิบัติการพบผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 23 ราย และพรบ.อาวุธปืน 3 ราย    จากปฏิบัติการการข่าว พบว่า เป้าหมายส่วนใหญ่ในพื้นที่ตำบลเพนียดเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย และผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด มีลักษณะสลับกันขาย และดูต้นทาง หากมีหน่วยงานรัฐหรือคนแปลกหน้าต่างถิ่นเข้าไปในหมู่บ้าน ต้นทางทางเข้าหมู่บ้านจะรายงานเข้าไปในหมู่บ้าน ทำให้เครือข่ายนักค้ายาเสพติดสามารถหลบหนีการตรวจค้น/จับกุมได้แทบทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบางรายมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในห้วงเวลาที่ผ่านมาศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดลพบุรี และสำนักงาน ปปส.ภาค 1 ได้รับแจ้งข้อมูล และเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดยาเสพติด ในพื้นที่ฯ ผ่านสายด่วน 1386 จำนวนมาก
                    การปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ เป็นการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหารโดยมณฑลทหารบกที่ 13 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 31 รักษาพระองค์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ ปปง. รวม 667 นาย เข้าควบคุมพื้นที่การค้าฯ ในระดับชุมชน โดยเข้าปิดล้อมตรวจค้น 62 เป้าหมาย ในพื้นที่ตำบลเพนียด อำเภอโคกสำโรง ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบประวัติแล้วว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับ  ยาเสพติด เป็นพื้นที่ที่ซ่องสุมมือปืน และอดีตมือปืน รวมทั้งมีบ้านพักของนางกลอย บุญเมฆ ผู้ถูกซัดทอดคดียาบ้า 2,000 เม็ด เมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นเหตุให้นายตำรวจคนหนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการรับสินบน 4 ล้านบาทเมื่อครั้งยังรับผิดชอบคดีดังกล่าว เป็นหนึ่งในบ้านเป้าหมายด้วย   ในวันนี้สามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 23 ราย แบ่งเป็นผู้เสพ 22 ราย และข้อหาครอบครอง/ครอบครองเพื่อจำหน่าย 1 ราย นอกจากนี้ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ราย พร้อมของกลางเป็น ยาบ้ากว่า 100 เม็ด อาวุธปืนและเครื่องกระสุน อุปกรณ์เสพ โฉนดที่ดิน และเงินสดพร้อมสมุดบัญชีจำนวนหนึ่ง
                  นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ปฏิบัติการฯ ครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของ คสช. ที่มอบสำนักงาน ป.ป.ส. บูรณาการการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวันนี้เราได้สนธิกำลังกับทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ปปง. และตำรวจดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ เพราะสืบทราบว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดมักใช้พื้นที่เหล่านี้ในการเก็บพักยาเสพติดรอเวลานำเข้าจำหน่ายในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนผู้เสพทั้งหมดจะถูกส่งเข้ารับการบำบัดรักษาในค่ายบำบัดอำเภอโคกสำโรง และค่ายบำบัดที่จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. วางแผนเตรียมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 2 เดือนนี้ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อลดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมให้ได้มากที่สุด”