เครือข่ายค้ายาเสพติดนายแดง สาดพุ่ม หรือติ๊บเล็ก มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ภาคกลาง โดยมีแหล่งพักยาเสพติดในชุมชนวัดมะกอก และพื้นที่เขตสายไหม ทีมสืบสวน ป.ป.ส. ได้สืบสวนสอบสวน และติดตามพฤติการณ์ของนายแดง และเครือข่ายฯ อย่างต่อเนื่องโดยในปี 2548 บช.ปส. จับกุม น.ส.ปทุมพร แก้วกุ่ม และสืบสวนทราบว่า นายแดง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ศาลอาญายกฟ้อง ปี 2552 สน.ห้วยขวางออกหมายจับนายแดง ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นฯ และความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน ปี 2553 สน.มักกะสันออกหมายจับนายแดง ข้อหาร่วมกับนายสิทธิพร ไกรโรจน์ ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน ขณะนี้นายแดงอยู่ระหว่างหลบหนีหลังศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวเพื่ออุทธรณ์ และปี 2557 นายแดง ถูกออกหมายจับเพิ่มอีกในข้อหาสมคบโดยการตกลงกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน (ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย) 

                 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 56 ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้อนุมัติหมายจับนายโกสินทร์ หรือกลาง ชูชัย ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีกำหนด และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลนิมิตใหม่ ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 420/2556 เข้าตรวจค้นบ้านพักอาศัยของนายโกสินทร์ ในหมู่บ้านพัฒนาสิริ ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายของนายแดง พบเคตามีน จำนวน 76 ขวด และทำการจับกุมตัวนางสาวธันยพร หรือเปรี้ยวฯ ภรรยาของนายโกสินทร์ฯ ส่วนนายโกสินทร์ ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ขยายผลยึดทรัพย์สินในคดีดังกล่าว มูลค่ารวม 25 ล้านบาท 

                ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 56 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกัดกั้นยาเสพติด บช.ปส. ได้ไล่ล่ารถยนต์เป้าหมายซึ่งลักลอบขนยาเสพติด บริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษม จนกระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กัน เป็นเหตุให้ นายวริศนนท์ เริงกมล ถูกวิสามัญฆาตกรรม และนายพิเชษฐ์ ดอกไม้พุ่ม ถูกจับกุมพร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 136,000 เม็ด และไอซ์ 8 กก. โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ไปรับกล่องพัสดุที่บรรจุยาเสพติดดังกล่าว มาจากบริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1998 จำกัด สาขามหานาคฯ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้ขยายผล และทำการตรวจค้นพบยาเสพติดเพิ่มเติมอีก เป็นยาบ้าจำนวน 142,000 เม็ด และไอซ์อีก 7 กก. ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้ลำโพง ระบุชื่อผู้รับ นายกลยุทธ สารีคำ ซึ่งหลังการสืบสวนทราบว่าเป็นบุคคลในเครือข่ายของนายแดงกับพวก และจากการตรวจสอบ พบว่ายาเสพติดทั้งสองคดีดังกล่าว ถูกส่งมาจากจังหวัดเชียงรายผู้ส่ง คือ นายประสิทธิ์ ไชยวุฒิ ผ่านทางบริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1998 จำกัด สาขาจังหวัดเชียงราย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ขยายผลยึดทรัพย์สินในคดีดังกล่าว มูลค่ารวม 20 ล้านบาท

                 นอกจากนี้นายแดง ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดหลายคดี เช่น สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันจับกุมนางสาวโชติกา โลกคำลือ และนายทวีป หรือป๊อบ บัวสะเกตุ บุคคลในเครือข่ายของนายแดง กับพวกรวม 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด และทำการตรวจยึดทรัพย์สินในคดีดังกล่าว เป็นบ้านพักพร้อมที่ดิน รถยนต์ และบัญชีเงินฝาก มูลค่ารวม 2.5 ล้านบาท โดยศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ 76/2557 ให้จับกุม นายแดง ในความผิดฐาน “สมคบฯ กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย)” 

                 นายเพิ่มพงษ์ฯ กล่าวภายหลังจากนำชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ เพื่อยึดอายัดบ้านเลขที่ 99/105 หมู่บ้านลัดดารมย์ ถนนนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 6 เป้าหมายที่เป็นบ้านพักของเครือข่ายทั้งหมดว่า “ในวันนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับทหาร จัดชุดปฏิบัติการ 6 ชุด ดำเนินการบุกจับ และยึดทรัพย์สินเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายแดง ทั้งหมด 6 แห่ง และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น รถยนต์ ที่ดิน อาคารชุด เงินในบัญชีธนาคารรวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งเครือข่ายนี้ถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีพฤติกรรมเป็นกลุ่มอันธพาล พกพาอาวุธปืน และทำงานเป็นกระบวนการ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนติดตามเส้นทางการเงินของเครือข่าย พบว่า มีสมาชิกในเครือข่ายเป็นผู้โอนเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดเข้าบัญชีธนาคารที่เจ้าของบัญชีมีความเกี่ยวข้องกับนายแดงทั้งสิ้น และสืบสวนพฤติการณ์ของผู้เกี่ยวข้อง และยังคงพบบัญชีที่มีความเชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากทั้งหมดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งสำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส. จะได้ขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และขอเตือนไปยังผู้ค้ายาเสพติดรายอื่นๆ ที่ยังมีพฤติการณ์อยู่ หากสืบพบการทำธุรกรรมด้านการเงินของเครือข่ายใดก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี และติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อตัดวงจรการเงินของนักค้ายาเสพติด