วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australia Federal Police – AFP) ประชุมแนวทางการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติด กรณี ทางการออสเตรเลียตรวจพบไอซ์ 316 กิโลกรัม รัฐนิวเซาธ์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมา โดยมี Ms. Davina Copelin เจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ สำนักงานป.ป.ส.
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึง ในส่วนของ ป.ป.ส. มีข้อมูลเชิงลึกถึงเครือข่ายนักยาเสพติดข้ามชาติ ที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนกับทางเจ้าหน้าตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) ซึ่งในการประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลในส่วนที่แต่ละฝ่ายได้สืบสวน และจะนำมาแลกเปลี่ยนข่าวสารเพื่อขยายผลถึงขบวนการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ “ประเด็นสำคัญ คือ การสืบสวนขยายผลไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง หรือผู้บงการ ซึ่งตรงนี้มีความเกี่ยวพันกับนักค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้มอบหมายให้อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านการควบคุมยาเสพติดของสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ประจำอยู่ต่างประเทศ ดำเนินการประสานข้อมูลเชิงลึก ควบคู่กับการตรวจสอบเส้นทางการเงิน บัญชี Statement ของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเตรียมยึดทรัพย์สิน เมื่อมีหลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกคนขับรถบรรทุกที่ไปรับสินค้าที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติดมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าจะมีรายละเอียดข้อมูล พยานหลักฐานนำไปสู่การอนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนของออสเตรเลีย พร้อมที่จะให้ข้อมูลที่ได้มีการสืบสวนมาก่อนหน้านี้แก่ประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ตามที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความร่วมมือ” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. และตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australia Federal Police – AFP) มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านยาเสพติดมาโดยตลอด ที่ผ่านมาตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียได้สนับสนุน ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการปราบปรามยาเสพติด การฟอกเงินและการจัดการกลุ่มอาชญากรรม ข้ามชาติต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมกันระหว่างไทย-ออสเตรเลีย (Task Force Strom) รวมถึงความร่วมมือในการจัดทำข้อมูลข่าวกรอง แผนประทุษกรรมของกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวในภูมิภาคเอเชีย เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายและการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด ให้สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมา โดยตลอด