วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นำโดย นายโอกาวะ คาซุฮิสะ (Mr. Ogawa Kazuhisa) รองผู้อำนวยการกองอาชญากรรมองค์กร 2 ผู้กำกับการตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (National Police Agency: NPA) นางสาวยูคาริ ฟูกิโนะ (Ms. Yukari Fukino) หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย และผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ และนายโทมิโอะ ฮิโรยะ (Mr. Tomio Hiroya) เจ้าหน้าที่ประสานงานศุลกากรญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการในประเด็นความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างสองประเทศ โดยมี นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ คณะผู้แทนจากสำนักปราบปรามยาเสพติด และสำนักการต่างประเทศ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องรับรอง เภา สารสิน สำนักงาน ป.ป.ส.

โดยนายโอกาวะ คาซุฮิสะ ได้กล่าวแนะนำคณะผู้แทน และแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติด โดยเฉพาะเมทแอเฟตามีน (ไอซ์) และกัญชา ซึ่งเป็นปัญหายาเสพติดในประเทศที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติและกลุ่มยากูซ่า ทั้งนี้ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อทางการไทย โดยเฉพาะสำนักงาน ป.ป.ส. ที่สามารถสกัดกั้นยาเสพติด โดยเฉพาะไอซ์ที่จะถูกลักลอบไปยังประเทศที่สามร่วมถึงประเทศญี่ปุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นายโอกาวะ ยังได้กล่าวถึงความกังวลที่มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเพื่อใช้กัญชา ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในประเทศไทย นอกจากนี้นายโทมิโอะ เจ้าหน้าที่ประสานงานศุลกากรญี่ปุ่นยังได้รายงานถึงสถานการณ์การลักลอบส่งผงกระท่อมผ่านไปรษณีย์จากไทยไปญี่ปุ่นกว่า 36 คดีในช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม โดยคาดว่ากลุ่มผู้เสพส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยในญี่ปุ่นที่ไม่ทราบว่าการใช้กระท่อมเป็นความผิดตามกฎหมายของญี่ปุ่น พร้อมทั้งเสนอความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวเพื่อป้องกันการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวต่อไป

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณคณะผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พร้อมชี้แจงสถานะทางกฎหมายของกัญชาในประเทศไทย ที่อนุญาตให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น การเพาะปลูกต้องอยู่ภายใต้ระบบการขึ้นทะเบียนและการกำกับดูแลจากหน่วยงานรัฐอย่างเคร่งครัดในส่วนของกระท่อม เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ออกประกาศควบคุมการจำหน่ายใบกระท่อม โดยกำหนดสถานที่ วิธีการ และลักษณะต้องห้ามในการขายอย่างชัดเจน เช่น การห้ามขายในพื้นที่ชุมชน พื้นที่สาธารณะ และใกล้สถานศึกษา หากพบการกระทำผิดสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจในการเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน AITF (Airport Interdiction Task Force) และ SITF (Seaport Interdiction Task Force) ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสกัดกั้นการนำเข้าและส่งออกยาเสพติดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ทั้งทางอากาศและทางเรือ พร้อมยืนยันความพร้อมในการยกระดับความร่วมมือกับทางการญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

นอกจากนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เสนอให้ทางฝ่ายญี่ปุ่นพิจารณาแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกในกรณีที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศไทยเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป

นอกจากนี้ฝ่ายไทยได้หารือถึงโอกาสในการขอรับการสนับสนุนการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายด้านยาเสพติดเพื่อเสริมศักยภาพและสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นผ่านกลไกขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) 

ในช่วงท้ายของการหารือ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้แสดงความสนใจเกี่ยวกับมาตรการบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศญี่ปุ่น พร้อมเสนอความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติในด้านการบำบัดรักษา โดยเฉพาะในกรณีที่มีการใช้ยาเพื่อช่วยบำบัดหรือทดแทนการใช้ยาเสพติด เพื่อพัฒนาแนวทางการบำบัดที่เหมาะสมกับบริบทของทั้งสองประเทศร่วมกันในอนาคต