วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 09.30 น. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายโชติพันธ์ จุลเพชร ผอ.ปปส.ภ.8 ลงพื้นที่จังหวัดระนอง ร่วมหารือกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ พื้นที่ภาคใต้ (นบ.ยส.48) โดยมี พล.ท.ณัฐศิทธิ์ คงชินศาสตร์ธิติ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.ต.อภินันท์ แจ่มแจ้ง ผบ.กกล.เทพสตรีพล.ต.สมคิด บุญโชติ เลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ผอ.รมน.จังหวัดระนอง พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผบ.ฉก.ร.25 พ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว. หน.ฝขว.กกล.เทพสตรี ให้การต้อนรับและร่วมหารือเรื่องนโยบายการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน และรับฟังแนวทางในการจัดตั้ง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ พื้นที่ภาคใต้ (นบ.ยส.48) และตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานด้านการสกัดกั้น ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2568 ของ กอ.รมน.ภาค 4 สย.1
วัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อหารือและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ในการจัดตั้ง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดน พื้นที่ภาคใต้ (นบ.ยส.48) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ รวมทั้งการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติมีการลักลอบขนย้ายยาเสพติดผ่านเส้นทางหลัก คือ ทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมต่อจากจังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และปัตตานี ไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส เพื่อจำหน่ายในพื้นที่ตอนในของภาคใต้ และส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งถือเป็นเส้นทางสำคัญที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ภูมิภาคภาคใต้ของประเทศไทย
เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรม สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้ขับเคลื่อนการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้ง กองทัพ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ภาคใต้ ตลอดจนการปราบปราม สืบสวน และขยายผลในพื้นที่ตอนใน เพื่อให้ทราบถึงเส้นทางการกระจายยาเสพติดไปยังแหล่งพักยา ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังประเทศที่สาม
นอกจากนี้ การจัดตั้งหน่วยบัญชาการ นบ.ยส.48 จะเป็นกลไกสำคัญในการบูรณาการกำลังของทุกหน่วยงานให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและมีทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันมิให้ยาเสพติดหลั่งไหลเข้าสู่ภาคใต้ของไทย รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการเร่งรัดป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม เน้นการติดตามและจับกุมผู้ลักลอบขนยาเสพติดที่สามารถหลุดรอดจากแนวสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อให้สามารถ ตัดวงจรการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไปอย่างเด็ดขาด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและยั่งยืน
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงานให้เหมาะสมกับกรอบอัตรากำลัง เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านชายแดน และพัฒนาการบริหารจัดการฐานข้อมูลยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามยาเสพติด และขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนภารกิจในครั้งนี้
ต่อมาเวลา 11.00 น. เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจเกาะสะระนีย์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จังหวัดระนอง การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และแนวทางการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นยาเสพติดของหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนทางทะเล ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ที่อาจถูกลำเลียงผ่านช่องทางทางทะเลเข้าสู่ประเทศไทย
เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เสียสละ และร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยคงความเข้มงวดในการตรวจตราและสกัดกั้นยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการสืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้สามารถตัดวงจรการค้ายาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล