วันที่ 23 ตุลาคม 2568 — พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงกรณีที่ สำนักงาน ปปส. ภาค 3 ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม มุ่งสร้างความโปร่งใสและคืนความเป็นธรรมให้แก่ทุกภาคส่วน
.
นายมานพ แสงโสทร ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 3 ได้มอบหมายให้ ว่าที่ ร้อยตรี ธีรพันธ์ นาคปานเอี่ยม นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
.
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ได้สั่งการให้การตรวจสอบเป็นไปด้วย ความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยมีการตรวจค้นบ้านพักและตรวจปัสสาวะของบุคคลตามเรื่องร้องเรียน ผลการตรวจสอบ ไม่พบสารเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ อีกทั้งจากการสอบถามผู้นำชุมชนและตรวจสอบข้อมูลโดยรอบ พบว่าบุคคลดังกล่าวมีความประพฤติดี และเรื่องร้องเรียนนี้เป็น การร้องเรียนซ้ำ ไม่มีพฤติการณ์กระทำผิดจริง
.
พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล กล่าวเพิ่มเติมว่า
“การตรวจสอบทุกเรื่องร้องเรียนถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญตามนโยบายของสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่า การปราบปรามยาเสพติดของรัฐดำเนินไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และไม่ละเมิดสิทธิของผู้บริสุทธิ์ พร้อมทั้งจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง”
.
ทั้งนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เน้นย้ำว่า
“ขอให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานภาครัฐทุกระดับ มั่นใจในกระบวนการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ว่าเราจะดำเนินการตรวจสอบทุกเรื่องร้องเรียนด้วยความเป็นกลาง โปร่งใส และเป็นธรรม ไม่กลั่นแกล้งผู้ใดอย่างเด็ดขาด ทั้งยังยึดมั่นในหลักนิติธรรม และให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชนของทุกคนอย่างเท่าเทียม”
.
พร้อมกันนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังเตือนประชาชนว่า หากมีผู้ใด แจ้งข้อมูลหรือร้องเรียนเท็จ เพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ,173 และ 326 ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ
.
สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ขอความร่วมมือประชาชนใช้ สายด่วน ป.ป.ส. 1386 “ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด – ท่านแจ้ง เราจับ”