เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (Senior Officials Committee: SOC) ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong MOU) ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยมุ่งเน้นการพิจารณาแนวทางความร่วมมือระดับภูมิภาคและการจัดทำแผนปฏิบัติการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ฉบับที่ 13 (Subregional Action Plan (SAP) for Drug Control) revision XIII
UNODC นำเสนอผลลัพธ์การดำเนินงานของคณะทำงาน 3 ด้าน ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยประเทศไทยขอบคุณ UNODC และประเทศสมาชิกที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมคณะทำงานฯ และขอบคุณประเทศจีนสำหรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมของคณะทำงานทั้ง 3 ด้าน ในขณะที่ประเทศจีนขอบคุณประเทศสมาชิกสำหรับการมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมของคณะทำงานและเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกพิจารณาเพิ่มการสนับสนุนทั้งในรูปแบบงบประมาณและอื่น ๆ ตามที่เหมาะสมต่อไปเพื่อสะท้อนความเป็นหุ้นส่วนและความรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างแผนปฏิบัติการฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งต่อไปจะต้องขอรับความเห็นชอบในระดับรัฐมนตรี
นอกจากนี้ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มอบหมายให้ นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงความมุ่งมั่นและแนวทางความร่วมมือของประเทศไทย เพื่อยืนยันความพร้อมของประเทศไทยในการขับเคลื่อนความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยประเทศไทยยังคงยืนยันการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ลดปริมาณและอันตรายจากยาเสพติด และเสริมสร้างความมั่นคงและความเป็นอยู่แก่คนในชาติ ตั้งเป้าทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกระดับ ขยายโครงการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคสังคมโดยให้ชุมชนและผู้นำท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการป้องกันการกลับมาใช้ยาเสพติดและคืนแรงงานสู่สังคม และยังคงให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศสมาชิกลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำแพร่กระจายออกไปยังประเทศสมาชิกและภูมิภาคอื่น ๆ และได้มีข้อเสนอแนะสำหรับความร่วมมือระดับภูมิภาคในอนาคต ๔ ประการ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของยาเสพติด การเพิ่มขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อตรวจจับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามพรมแดน การปรับปรับปรุงบัญชีสารเคมีเฝ้าระวังร่วมระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และการส่งเสริมการพัฒนาทางเลือกซึ่งไทยพร้อมแบ่งปันองค์ความรู้และเปิดพื้นที่เรียนรู้ให้ประเทศสมาชิกนำไปปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน และประเทศไทยยืนยันความพร้อมในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี และสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมในทุกระดับ
ในช่วงท้ายประเทศไทย ยืนยันความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม SOC ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจฯ ประจำปี พ.ศ. 2569 รวมทั้งได้แจ้งถึงกำหนดการจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ประสานงานกลาง ในห้วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2569 และการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ในห้วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2569 ทั้งนี้การประชุมสิ้นสุดลงด้วยความเป็นมิตรและคณะผู้แทนจากทุกประเทศสมาชิก รวมถึง UNODC ได้ยืนยันคำมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคต่อไป