เมื่อวันพุธที่ 1 - วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. นำโดยนางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระหว่างสมัยของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 68 ในช่วงสองวันสุดท้าย ประกาศความคืบหน้าตามคำมั่นในเวทีโลก ผนึกกำลังสาธารณสุขแสดงบทบาทเชิงรุกมุ่งเน้นการลดอุปสงค์ยาเสพติดในทุกมิติ เห็นพ้องความสำคัญกับระบบการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า พร้อมเรียกร้องสร้างสมดุลการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยา และเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนยาเพื่อศึกษาวิจัยรักษายาบ้า  ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย

ในช่วงวันที่สองของการประชุมฯ นายพงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์เเละโรคติดต่อ
ทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค เป็นผู้แทนประเทศไทยกล่าวถ้อยแถลงภายใต้การอภิปรายหัวข้อ “การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบซี และโรคติดต่อทางเลือดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดเพิ่มสูงขึ้น” โดยนำเสนอสถานการณ์การแพร่ระบาดและการติดเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบในไทย รวมถึงการบูรณาการร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมในการดำเนินมาตรการลดอันตราย จัดหาและการขยายการเข้าถึงบริการที่เหมาะสม รวมไปถึงความร่วมมือกับ สปสช. จัดหางบประมาณสนับสนุนการเข้าถึงผู้ติดเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบในชุมชนทดแทนวิกฤตการสนับสนุนจากกองทุนระหว่างประเทศที่ลดลง จากนั้น รองศาสตราจารย์นายแพทย์วิศาล วรสุวรรณรักษ์อาจารย์ประจำสาขานิติเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นผู้แทนไทยกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายภายใต้หัวข้อ “ผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ของความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทชนิดใหม่” โดยนำเสนอแนวโน้มสถานการณ์และผลกระทบทางสุขภาพจากการวิเคราะห์ผ่านข้อมูลนิติเวชศาสตร์ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์เชิงลึกในการอ้างอิงข้อมูลเพื่อประกอบการวางระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้ พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องการให้ความสำคัญกับการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีคุณภาพ การใช้วิธีการทางสถิติที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ และจัดการข้อมูลอย่างถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่ผลสรุปที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ

สำหรับในช่วงการประชุมฯ วันสุดท้าย ประเทศไทยโดยนางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ ได้รายงานความคืบหน้าภายหลังการประกาศคำมั่น Pledge4Actions เมื่อปี 2567 ที่ตั้งเป้าแก้ไขปัญหาผู้มีอาการผิดปกติจากการใช้ยาบ้า โดยได้นำเสนอผลการดำเนินโครงการมินิธัญญารักษ์ ที่ครอบคลุมการบำบัดรักษาผู้ใช้ยาเสพติดที่มีปัญหาจิตเวชกว่า 32,000 คน เน้นย้ำความสำคัญของผลกระทบด้านสุขภาพจิตจากการใช้ยาเสพติด รวมถึงการขยายการให้บริการบำบัดรักษาผ่านความร่วมมือด้านจิตสังคมบำบัดในระบบศาล ตลอดจนการขับเคลื่อนเชิงรุกของไทยในเวทีระหว่างประเทศในการส่งเสริมการศึกษาวิจัยยาที่สนับสนุนการรักษาผู้ใช้สารกระตุ้นผ่านการเสนอข้อมติ CND และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการสารเสพติดนานาชาติ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ นายวิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทยในหัวข้อ การขาดแคลนสารที่อยู่ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศสำหรับวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเน้นย้ำการสร้างสมดุลการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเทศไทย และการควบคุมกำกับดูแลไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมนำเสนอความก้าวหน้าในการผลักดันนโยบายให้มีการวิจัยและพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์ยาและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทภายในประเทศ ภายหลังประสบปัญหาการขาดแคลนยาบางประเภท ซึ่งรวมถึง Methylphenidate ที่ประเทศไทยนำมาใช้ในการศึกษาวิจัยยาเพื่อช่วยบำบัดรักษาการเสพติดยาบ้าด้วย

นอกจากนี้ ผู้แทนไทยได้ใช้โอกาสจากการเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หารือกับ Ms. Giovanna Campello หัวหน้าส่วนงานป้องกัน บำบัดรักษาและฟื้นฟู UNODC ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามข้อมติ CND ว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษาวิจัยยาที่สนับสนุนการรักษาผู้ใช้สารกระตุ้น โดยตกลงร่วมกันในการจัดกิจกรรมคู่ขนานในการประชุม CND สมัยที่ 69 เพื่อนำเสนอความคืบหน้าภายหลังการเสนอข้อมติ พร้อมหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนา Target Product Profile (TPP) ซึ่งเป็นกรอบแนวทางการวิจัยและพัฒนายาระดับโลกสำหรับการบำบัดรักษายาบ้า ทั้งนี้ ในช่วงท้าย ประเทศไทยประกาศร่วมมือเปรู เยอรมนี ขับเคลื่อนการพัฒนาทางเลือกต่อเนื่อง ผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยการพัฒนาทางเลือก ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 5 – 7 พฤศจิกายน 2568 ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู เพื่อร่วมกันพิจารณาเพิ่มเติมแนวปฏิบัติ UNGPs on AD ให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน สะท้อนเศรษฐกิจยาเสพติดที่เปลี่ยนแปลงไป การผลิตยาเสพติดสังเคราะห์และตลาดค้าเสพติดในเขตเมือง รวมถึงการปรับตัวเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมชุมชนในพื้นที่ห่างไกลผ่านเทคโนโลยีและการเข้าถึงตลาด ตลอดจนมิติความเท่าเทียมทางเพศ 

ภายหลังการประชุมระหว่างสมัยของการประชุม CND สมัยที่ 68 ทั่วโลกตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลดอุปสงค์ยาเสพติดผ่านมาตรการป้องกัน และการบำบัดรักษาที่ครอบคลุม เข้าถึงได้สำหรับคนทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกล้วนตระหนักถึงความท้าทายใหม่ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ สถานการณ์ยาเสพติดสังเคราะห์ ภัยคุกคามยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทชนิดใหม่ ผลกระทบด้านสุขภาพจากการใช้ยาเสพติด การขาดแคลนทรัพยากรและข้อจำกัดด้านงบประมาณในการจัดการกับความท้าทายใหม่ ฯลฯ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการประชุมดังกล่าวจะถูกรวบรวมและเสนอในรูปแบบเอกสารผลลัพธ์ของประธานคณะกรรมาธิการยาเสพติด เพื่อเสนอต่อที่ประชุม CND สมัยที่ 69 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2569 ต่อไป