วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ปปส.ภ.1 นำโดยนายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผอ. ปปส. ภ.1 เจ้าหน้าที่ สพส. ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองปทุมธานี นำโดยนางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยรังสิต ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อม รอบเขตสถานศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต จังหวัดปทุมธานี
ผลการตรวจสอบ พบร้านลักลอบจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อม ชื่อร้าน“ลองยัน? ”เป็นลักษณะร้านเร่ริมทาง มีลังน้ำแข็งแช่น้ำต้มพืชกระท่อมวางหลังร้าน มีลูกจ้างขายน้ำต้มพืชกระท่อม 1 คน ประจำร้าน ตรวจสอบในร้านพบ
1.น้ำต้มพืชกระท่อมไม่ผสมบรรจุขนาด 1.5 ลิตร จำนวน 115 ขวด
2.น้ำต้มพืชกระท่อมผสมโยเกิร์ตบรรจุขวดขนาด 1 ลิตร จำนวน 18 ขวด
3.Allegan Syrup จำนวน 7 ขวด
4.ใบพืชกระท่อมสด น้ำหนักรวมประมาณ 440 กรัม
5. ไซรัปน้ำเชื่อม 1 กระปุก
สอบถามข้อมูลทราบว่า
-ขายได้ปริมาณวันละ 30-50 ขวด
-ราคาขาย ขวดละ 80 บาท
-มีการตั้ง Line กลุ่มสั่งซื้อ
-มีการขายผสมรสชาติหลากหลาย รวมทั้งยาแก้ไอ
-มีการลักลอบเทยาแก้ไอรวมใว้ในกระปุกพร้อมผสม เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
-เจ้าของจะมีร้านหลายสาขา หลายพื้นที่ มีรถกระบะค่อยวิ่งส่งน้ำต้มพืชกระท่อม
-ค่าจ้างขายวันละ 400-500 บาท
กฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายให้ความรู้และทำความเข้าใจผู้ขาย คือ
1. พระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565
2. พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
3. พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562
4.พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510
ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการเรื่องน้ำต้มพืชกระท่อม
- ข้อกฎหมายอำนาจของ ป.ป.ส. มีเพียงตรวจการติดป้ายประกาศข้อห้ามจำหน่ายใบกระท่อม /การลักลอบขายให้กับบุคคลต้องห้าม/การขายในสถานที่ต้องห้ามซึ่งส่วนใหญ่เป็นโทษแค่ปรับเป็นพินัย ผู้กระทำความผิดไม่เกรงกลัวเมื่อเทียบกับผลประโยชน์รายได้จากการขายน้ำต้มพืชกระท่อม และการปรับพินัยมีวิธียุ่งยากในการปฏิบัติ
- ข้อกฎหมายของสาธารณสุขใช้วิธีตักเตือนสำหรับความผิดที่พบครั้งแรก ถ้าพบทำผิดซ้ำทำการจับกุมดำเนินคดี แต่ยังตั้งข้อหาในการดำเนินคดีไม่ได้ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ซึ่งใช้เวลานาน ผลที่ตามมาผู้ต้องหาหลบหนี ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา
การดำเนินการครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีข้อร้องเรียนว่ามีการลักลอบจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อมผสมน้ำหวาน/ยาแก้ไอ ให้กับกลุ่มวัยรุ่น/นักศึกษา บริเวณข้างมหาวิทยาลัยรังสิต จังหวัดปทุมธานี ปปส.ภ.1 จึงได้ประสานฝ่ายปกครอง และหน่วยงานภาคีในพื้นที่ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อเป็นการป้องปรามและป้องกันไม่ให้กลุ่มเยาวชนในรั้วสถานศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง หันมาใช้น้ำต้มพืชกระท่อม อันอาจจะนำไปสู่การใช้ยาเสพติดชนิดร้ายแรงอื่นๆ ตามมา