ในวันพุธที่ 3 กันยายน 2568 นายศิริสุข ยืนหาญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยคณะผู้แทนจาก สำนักปราบปรามยาเสพติด และสำนักการต่างประเทศ เป็นคณะผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วยผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านยาเสพติดเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ครั้งที่ 32 (The 32nd Anti - Drug Liaison Officials’ Meeting for International Cooperation: ADLOMICO) จัดโดยสำนักงานอัยการสูงสุด (SPO) ณ โรงแรม Lotte SIGNIEL เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันพุธที่ 3 - วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568 โดยมี Mr. Roh Manseok รักษาการอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี เป็นประธานการประชุมฯ
สำหรับการประชุม ADLOMICO จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามยาเสพติดและการลักลอบค้ายาเสพติด ผ่านการเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวทางการดำเนินการร่วมกัน เพื่อรับมือกับปัญหายาเสพติดข้ามพรมแดน การประชุมประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 26 ประเทศ และ 6 องค์การระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมฯ
ในช่วงก่อนพิธีเปิดการประชุม นายศิริสุข ยืนหาญ ได้เข้าร่วมหารือแบบหลายฝ่ายเพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อราชการและสถานการณ์ยาเสพติดกับผู้แทนระดับสูงจากสาธารณรัฐเกาหลี เวียดนาม จีน คีร์กีซสถาน และผู้แทนจาก คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ (INCB) เพื่อทักทายและแลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองเชิงนโยบายและความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
พิธีเปิดการประชุม Mr. Roh Manseok รักษาการอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี ในฐานะประธานการประชุม ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนและเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในระดับภูมิภาคและนานาชาติในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยชี้ให้เห็นว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตและการกระจายยาเสพติดอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังอาศัยช่องทางออนไลน์โดยไม่เปิดเผยตัวตน และใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล (virtual assets) ที่ติดตามได้ยากในการทำธุรกรรมยาเสพติด จนสามารถสะสมความมั่งคั่งอย่างมหาศาล ข้อเท็จจริงดังกล่าวสะท้อนถึงความท้าทายที่ซับซ้อน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและการบูรณาการมาตรการระหว่างประเทศอย่างรอบด้านเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว
จากนั้นผู้แทนระดับสูงจาก 5 หน่วยงานได้แก่ ผู้จัดการโครงการนานาชาติ INCB อธิบดีกรมตำรวจต่อสู้ยาเสพติดสาธารณรัฐเวียดนาม รองเลขาธิการคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติจีน (NNCC) รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ประเทศไทย และผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดคีร์กีซสถาน ได้กล่าวสุนทรพจน์แสดงความยินดีต่อการจัดประชุม ทั้งนี้ผู้แทนต่างๆ ได้ชื่นชมบทบาท SPO ในการเป็นผู้นำในการจัดประชุม และเห็นพ้องว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ
ในโอกาสนี้ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้นำเสนอปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อไทยและภูมิภาค พร้อมเสนอแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของไทย อาทิ ปฏิบัติการ “Seal-Stop-Safe” และ “No Drugs, No Dealers” อันเป็นยุทธศาสตร์หลักในการสกัดกั้นและปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติด รวมถึงยืนยันบทบาทของสำนักงาน ป.ป.ส. ในการเป็น “สะพานเชื่อม” พร้อมทั้ง เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันของประเทศสมาชิก และเสริมสร้างขีดความสามารถร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ในช่วงบ่าย
การประชุมประกอบด้วยการนำเสนอประเด็นสำคัญเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดระดับโลก โดยมีผู้แทน INCB ได้นำเสนอ “INCB GRIDS Programme” สำหรับการเฝ้าระวังสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทชนิดใหม่ ขณะที่ผู้แทนจาก UNODC และองค์การศุลกากรโลก (WCO) ชี้ถึงความท้าทายของปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมถึงแนวโน้มการผลิตและค้ายาเสพติดชนิดสารสังเคราะห์ที่ยังคงรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมทแอมเฟตามีน ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ไปยังแหล่งผลิตจำนวนมาก นอกจากนี้ FBI สหรัฐอเมริกา ได้นำเสนอยุทธศาสตร์ JCODE เพื่อปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดบนแพลตฟอร์มออนไลน์และดาร์กเน็ต ขณะที่ผู้แทนจากศุลกากรเยอรมนี รายงานการปรับตัวต่อภัยคุกคามจากดาร์กเว็บ และผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ส. ได้นำเสนอ “Thailand Drug Situation 2025” ครอบคลุมภาพรวมสถานการณ์ นโยบายเร่งด่วน และการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดรูปแบบใหม่ (NPS) และมาตรการควบคุมกัญชาฉบับล่าสุดที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ซึ่งจำกัดใช้เพื่อทางการแพทย์เท่านั้น ผู้ซื้อจะต้องมีใบสั่งแพทย์และผู้ขายต้องมีใบอนุญาต พร้อมแจ้งเตือนรูปแบบการซุกซ่อนยาเสพติด และย้ำถึงความร่วมมือกับนานาประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางลำเลียง
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้จะมีการนำเสนอรายงานประเทศและการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดเพิ่มเติมจากผู้แทนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากประเทศ และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องต่อไป