วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการป.ป.ส.) แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจากการขยายผล สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ป.ป.ส. ได้รับการแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1386 ว่ามีพัสดุต้องสงสัยปลายทางเตรียมส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี   ตรวจสอบถุงขนมขบเคี้ยวภายในพบว่าซุกซ่อนไอซ์ น้ำหนักประมาณ 870 กรัม ยาอี 1,980 เม็ด เคตามีน 1,778 กรัม และกัญชา 2,080 กรัม จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับ ผู้ต้องหาชาวไทย 1รายชื่อ นายอัคเรศร์ หรือแจ็ค เปลื้องไธสง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 627/2564 ลว.13 ธ.ค.64 และจับกุมได้ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

               “ในครั้งนี้เป็นการจับกุม 1 ใน 2 ผู้ต้องหา ที่นายอัคเรศร์ฯ อ้างว่าถูกจ้างวานจากนายทุนชาวเกาหลีใต้ 2 ราย ให้นำพัสดุไปส่ง โดยผู้ส่งไม่มาส่งพัสดุด้วยตนเองแต่ใช้การจ้างวานแท็กซี่สาธารณะเป็นผู้มาส่งให้ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลไปยังจนสืบทราบและออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย คือ 

                      1. ผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ. 64/2565 ลว.28 ม.ค.65 

                      2. น.ส.รัตนาพร พุทโสม ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.65/2565 ลว.28 ม.ค.65 

ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายและพยายามส่งออกยาเสพติดประเภท1(ไอซ์ ,ยาอี) และยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน)

               จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.รัตนาพรฯ อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรีจึงได้เข้าจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาขยายผลตรวจค้นห้องพัก     เลขที่ 400/110 ม.5 แมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี เบื้องต้นยึดเอกสารบางส่วนไว้ตรวจสอบ ซึ่งนอกจากการถูกแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายและพยายามส่งออกยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่หากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่ยอมให้ใช้บัญชีของตน ในการเปิด จด   หรือลงทะเบียนธุรกรรมทางการเงิน โดยรู้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ถือว่ามีความผิด มีอัตราโทษ    จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน60,000 บาท และจะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มด้วยเช่นกัน” 

               นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า ข้อสั่งการของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นการลักลอบการส่งยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์ทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแค่การจับกุมเท่านั้น แต่ต้องขยายผลแต่ละคดีให้ไปจนถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งในคดีนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานอัยการสูงสุด    สาธารณรัฐเกาหลี (หรือ SPO) ที่ประจำอยู่ที่ประเทศไทย เพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลป้องกันการกระทำผิดยาเสพติดระหว่างไทยและเกาหลีใต้ และเพื่อร่วมกันทำลายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่อยู่เบื้องหลังการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งยาเสพติดต่อไป ทั้งนี้การส่งเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านยาเสพติดไปประจำยังต่างประเทศ นอกจากเพื่อความสะดวกในการประสานงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวแล้ว ยังถือเป็นความร่วมมือกันที่ประเทศต่าง ๆ ล้วนเห็นไปในแนวทางเดียวกัน ถึงความสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด