ป.ป.ส. รุกหนัก เพื่อสกัดกั้นสารตั้งต้น ยาบ้า เข้าพื้นที่ แหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ

เมื่อวันที่ : 15 ส.ค. 2568 14:25
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
15 ครั้ง

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย – เวียดนาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 17 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมี พลตำรวจตรี โง แทง บิ่ญ (Pol.Maj.Gen. Ngo Thanh Binh) อธิบดีกรมตำรวจปราบปรามยาเสพติดเวียดนาม (The Counter Narcotics Police Department of Vietnam: CND) เป็นประธานการประชุมและหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายเวียดนาม

การประชุมครั้งนี้ ฝ่ายเวียดนามได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณสำหรับความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศในการเผชิญและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ซับซ้อนและท้าทาย ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เข้าสู่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงกาเฟอีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยาบ้าและก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมประสานความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข่าวกรอง สนับสนุนทรัพยากร และปฏิบัติการร่วมเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเป้าหมายสร้างสังคมปลอดภัยจากยาเสพติด ภายใต้หลัก “ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้กล่าวถึงความสำเร็จของแผนปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ที่สามารถจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก พร้อมทั้งผลักดันการสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายจากยาบ้าและปัญหาในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ อีกทั้งเสนอร่างข้อมติหัวข้อ “ส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับมาตรการที่อิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการบำบัดรักษาและดูแลความผิดปกติจากการใช้สารกระตุ้น” ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนสูงสุดจากประเทศสมาชิก ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (CND) สมัยที่ 68 ณ กรุงเวียนนา รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการสารเสพติดนานาชาติ เพื่อรวบรวมองค์ความรู้และแนวคิดใหม่จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพื่อนำไปต่อยอดร่างข้อมติดังกล่าว

โดยที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้
1. เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการผลิต การส่งออก การนำเข้า และการผ่านแดนของสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด โดยเฉพาะกาเฟอีน เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผลิตยาเสพติด
2. แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการปราบปราม รวมทั้งปฏิบัติการสืบสวนและติดตามปราบปรามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดร่วมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนเวียดนาม–ลาว และไทย–ลาว ซึ่งเป็นจุดลักลอบลำเลียงยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ รวมถึง การจัดตั้งชุดปฏิบัติการร่วม ทั้งนี้ รวมถึงในการควบคุมกัญชา เนื่องจากปัจจุบัน พบการลักลอบนำเข้ากัญชาจากไทยไปเวียดนามเป็นจำนวนมาก โดยราคากัญชาในเวียดนามสูงกว่าไทยถึง 10 เท่า
3. ส่งเสริมการจัดทำและการแลกเปลี่ยนข้อมูลผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (Drug Profiling) ซึ่งมีความสำคัญและจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวิเคราะห์สถานการณ์ยาเสพติด การแพร่ระบาด แนวโน้มและเส้นทางลำเลียง รวมถึงการระบุกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และช่วยสนับสนุนการวางแผนปฏิบัติการและกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันผ่านกลไกมีอยู่ในทุกระดับ ทั้งกรอบทวิภาคีและพหุภาคี  รวมถึงการประสานงานอย่างทันท่วงทีผ่านช่องทาง อทป.ปปส. ณ กรุงฮานอย  และศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย ในโอกาสนี้ฝ่ายไทยได้มีการแนะนำ นายพรภณ พงษ์เพชร ซึ่งจะเข้ารับหน้าที่ อทป.ปปส. ณ กรุงฮานอย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568
5. ยินดีจัดการศึกษาดูงานในลักษณะเหย้าเยือน จำนวนฝ่ายละ 2 คณะ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเวียดนามแสดงความสนใจในการศึกษาดูงานด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และด้านการตรวจสอบและยึดทรัพย์สิน
6. สนับสนุนงบประมาณและการดำเนินการแผนงานกิจกรรมภายใต้โครงการ LoA อย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการ LOA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไทยยินดีสนับสนุนปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ชายแดนเป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย (Safe Mekong Operation Plan) รวมถึงการเป็นเจ้าภาพแผนดังกล่าวของเวียดนาม ซึ่งไทยได้กล่าวชื่นชมการเสนอรับเป็นเจ้าภาพแผนฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในโอกาสแรกหรือในห้วงปี 2569 ต่อไป
7. สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยฝ่ายไทยยินดีเชิญฝ่ายเวียดนามเข้าร่วมหลักสูตรประจำที่จัดในประเทศไทย จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ โครงการพัฒนาเครือข่ายเยาวชนระหว่างประเทศเพื่อการป้องกันยาเสพติด (Youth Network on Drug Prevention Programme) และโครงการฝึกอบรมการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายยาเสพติดในกลุ่มประเทศอาเซียน (The Training of Narcotic, Precursor, and Chemical Interception and Suppression for ASEAN Narcotics Law Enforcement Officers) รวมถึงโครงการความร่วมมือที่จะจัดโดย อทป.ปปส. ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามอีก 2 โครงการ
8. ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทวิภาคีไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 18 ณ ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2569

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนไทยเยี่ยมชมศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดที่ 4 กรุงฮานอย โดยมี พ.ต.ท. เหงียน เวียด ลอง หัวหน้าศูนย์ ให้การต้อนรับ ปัจจุบันศูนย์ฯ รับผู้เข้าบำบัดจำนวน 611 คน โดยมีโครงการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและสังคม กระบวนการบำบัดแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่
1. การรับและจำแนกประเภทผู้เข้ารับการบำบัด
2. การถอนยา/การบำบัดพิษ และการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางจิต
3. การให้คำปรึกษาและฟื้นฟูพฤติกรรมและบุคลิกภาพ
4. การฝึกอาชีพและกิจกรรมบำบัด
5. การเตรียมความพร้อมเพื่อกลับสู่ชุมชน เพื่อให้ผู้เข้ารับการบำบัดมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ และลดความเสี่ยงต่อการกลับไปเสพซ้ำ

#oncb #สำนักงานปปส #ปปส

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ