เลขาฯ ป.ป.ส. ยกทัพประชุม ทวิ ไทย-เมียนมา มุ่งปราบนักค้ายาเสพติดที่หลบหนี พร้อมหารือแนวทางสกัดกั้นสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์

เมื่อวันที่ : 4 ก.ค. 2568 15:04
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
15 ครั้ง
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2568 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการป.ป.ส.) นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย–เมียนมา ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 26 ณ เมืองตองจี รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีพลตำรวจโท วิน ซอ โม ผู้บัญชาการตำรวจเมียนมาและเลขาธิการคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติด (Central Committee for Drug Abuse Control: CCDAC) เป็นประธานเปิดการประชุม และพลตำรวจจัตวา ต่าน ลวิน หม่อง ทำเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเมียนมา
ในการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้หารือและขอความร่วมมือจากฝ่ายเมียนมาในการติดตามตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญที่หลบหนีไปยังประเทศเมียนมา รวมถึงการดำเนินการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำลายโครงข่ายการค้ายาเสพติดอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ไทยยังเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสถิติการนำเข้า ส่งออก และการนำผ่านสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด โดยเฉพาะสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารสำคัญในการผลิตยาบ้า พร้อมทั้งขอให้เมียนมาช่วยติดตามและสกัดกั้นการนำเข้าสารเหล่านี้อย่างเข้มงวด
ในด้านการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ ฝ่ายไทยแสดงความพร้อมให้การสนับสนุนเมียนมาในการจัดฝึกอบรมด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด การจัดทำข้อมูลสารเสพติดเชิงลึก (Drug Profiling) และการสืบสวนทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล โดยเห็นว่าห้องปฏิบัติการของเมียนมามีศักยภาพสูง หากได้รับการพัฒนาเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม จะสามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านยาเสพติดระหว่างสองประเทศในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอให้จัดทำแผนฝึกอบรมต่อเนื่องระยะเวลา 3 ปี เพื่อผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน
​ฝ่ายไทยยังได้เชิญผู้แทนเมียนมาเข้าร่วมการประชุมวิชาการสารเสพติดนานาชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “ยาบ้า เมทแอมเฟตามีน และสารเสพติดสังเคราะห์” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6–8 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพมหานคร เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมกำหนดมาตรการรับมือปัญหายาเสพติดในภูมิภาค
​อีกหนึ่งความร่วมมือสำคัญคือ การสนับสนุนโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนในประเทศเมียนมา (พ.ศ. 2564–2569) ซึ่งดำเนินการในพื้นที่หนองตะยา เมืองพินเลา โดยฝ่ายไทยขอให้เมียนมาสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดการพึ่งพาการปลูกฝิ่น และส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังได้ยืนยันการสนับสนุนภายใต้กรอบโครงการ Letter of Agreement (LoA) เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ โดยงบประมาณปี 2568 อยู่ระหว่างการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
​ภายหลังการประชุม พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ พร้อมคณะผู้แทนไทย ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาทางเลือก ณ หมู่บ้านหนองตะยา เมืองพินเลา โดยมีหม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้การต้อนรับ พร้อมนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมที่ยั่งยืน อาทิ การปลูกกาแฟ ข้าวโพด และกะหล่ำปลี แทนการปลูกฝิ่น
​เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เน้นย้ำว่า การปลูกฝิ่นจะหมดไปได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคประชาชนเป็นหลัก รัฐบาลต้องเสริมสร้างความรู้และพัฒนาอาชีพควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการหวนกลับไปสู่การปลูกฝิ่นอีกครั้ง ในโอกาสนี้ ป.ป.ส. ยังได้สนับสนุนโคจำนวน 2 ตัว เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ในชุมชน สร้างรายได้และความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ