เมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม ปปส.ภาค 5 ณ ห้องประชุมกาแล 1 สำนักงาน ปปส. ภาค 5 ปปส. ภาค 5 ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขออนุมัติแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ปปส.ภาค 5 ได้อำนวยการจัดประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขออนุมัติแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดภาค 5 ครั้งที่ 13/2568 โดยมีนายจำนอง ปานทอง อธิบดีอัยการภาค 5 เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อมด้วยอนุกรรมการ ได้แก่ พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายสมชัย บรรจง อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ผู้แทนสำนักงานอัยการภาค 5 นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส. นายอนุเทพ ธาระณะ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน เป็นผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 นายดนุชา ไชยวงค์ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการและบังคับใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่ ปปส. ภาค 5 ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้พิจารณาคำขออนุมัติแจ้งข้อหาฯ จำนวน 17 คำขอ ที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนจากสถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ปปส. ภาค 5 ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานจากการสืบสวนขยายผลคดียาเสพติดหลัก ผลการพิจารณาที่ประชุมมีมติเห็นควรเสนอ เลขาธิการ ป.ป.ส. อนุมัติแจ้งข้อหาเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญฐานสมคบฯ ตามมาตรา 125 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด และมาตรา 127 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด จำนวน 38 ราย ซึ่งภายหลังหาก เลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งอนุมัติแจ้งข้อหาฯ แล้ว พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจะดำเนินแจ้งข้อหาฯ แก่ผู้ต้องหา ต่อไป โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – ปัจจุบัน คณะอนุกรรมการสมคบ ภาค 5ฯ ได้เห็นชอบเสนอ เลขาธิการ ป.ป.ส. แจ้งข้อหาสมคบฯ เครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญไปแล้วกว่า 484 ราย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยการขยายผลจับกุมเครือข่ายการค้ายาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยใช้มาตรการสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ และยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด