เมื่อวันจันทร์ที่ 19 - วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับตำรวจนิวซีแลนด์และศุลกากรนิวซีแลนด์ เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมหลักสูตรข่าวกรองขั้นสูง (Advanced Intelligence Training Course) ณ วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (วปส.) อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรข่าวกรองต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยเมื่อห้วงเดือนพฤษภาคม 2566 และเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรข่าวกรองขั้นพื้นฐาน (Basic Intelligence Training Course)

การฝึกอบรมฯ ครั้งนี้ เป็นการยกระดับจากหลักสูตรข่าวกรองขั้นพื้นฐานเป็นหลักสูตรข่าวกรองขั้นสูง โดยจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นและซับซ้อนมากขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายยังคงมุ่งเน้นไปที่เจ้าหน้าที่แนวหน้าที่ปฏิบัติงานด้านข่าวกรองในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จาก 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 25 คน จากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศ ได้แก่ หน่วยงานด้านปราบปรามยาเสพติด หน่วยงานตำรวจ หน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานศุลกากร

วัตถุประสงค์ของการจัดการฝึกอบรมฯ มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ด้านการข่าวกรองเชิงลึก การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างวิทยากรและผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ จากประเทศต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติการด้านการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของแต่ละประเทศได้ทำความรู้จักกันเพื่อประโยชน์ด้านการประสานความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต

เนื้อหาของการอบรมครอบคลุมตั้งแต่เรื่องสถานการณ์ยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ การทบทวนเนื้อหาหลักการข่าวกรองพื้นฐาน ภาพรวมสถานการณ์เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศนิวซีแลนด์ การคิดเชิงวิเคราะห์และเทคนิคการวิเคราะห์เชิงโครงสร้าง (Analytical Thinking and Structured Analytical Techniques) ข่าวกรองทางแหล่งข้อมูลเปิด (Open Source Intelligence: OSINT) โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (Drug Enforcement Administration: DEA) และเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวซีแลนด์และเจ้าหน้าที่ศุลกากรนิวซีแลนด์ รวมไปถึงได้จัดการศึกษาดูงานการลาดตระเวนทางน้ำและการลาดตระเวนพื้นที่ตามแนวชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ ณ นรข. เขตเชียงราย และรับฟังการบรรยายและศึกษาดูงานด้านการสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดทางพัสดุภัณฑ์ ณ ด่านศุลกากรแม่สาย

ในการนี้ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มอบหมายให้นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ เป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีปิดการฝึกอบรมฯ ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ วปส. โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ โจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธี กล่าวปิดการอบรม และมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการอบรมร่วมกับผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ โดยทั้งสองท่านได้กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ที่สำเร็จการอบรมฯ รวมถึงเน้นย้ำความสำคัญของการใช้เทคนิคด้านการข่าวกรองในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัญหายาเสพติดยังคงเป็นอาชญากรรมที่รุนแรงที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ

นอกจากนี้ นางสาวศรีตระกูล ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลนิวซีแลนด์สำหรับการสนับสนุนการจัดการฝึกอบรมฯ ตลอดสามปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ อีกทั้ง องค์ความรู้และประสบการณ์ที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ทั้ง 3 รุ่นได้รับ จะสามารถนำไปใช้ในการดำเนินงานสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการผลิตยาเสพติด อันจะยังประโยชน์ด้านการป้องปรามให้แก่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และสามารถสกัดกั้นยาเสพติดที่เตรียมจะส่งออกจากอนุภูมิภาคโดยมีประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สามอีกด้วย

ในขณะที่ ฯพณฯ โจนาธาน ได้กล่าวขอบคุณความร่วมมืออันดียิ่งของสำนักงาน ป.ป.ส. เช่นกัน และเสริมว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ จะสามารถใช้เทคนิคด้านการข่าวกรองในการรวบรวมข้อมูลที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ (evidence-based) ในการตัดสินใจกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการสกัดกั้น ป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและสารตั้งต้นเข้าสู่ประเทศได้ อีกทั้งแนวโน้มปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมด้านยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อประเทศนิวซีแลนด์มีสูงขึ้น โดยยาเสพติดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมทแอมเฟามีน ถูกส่งมาจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ดังนั้น การเข้าร่วมการฝึกอบรมฯ หลักสูตรนี้ จึงแสดงให้เห็นว่าหน่วยงานของทั้ง 4 ประเทศให้ความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าว และทางรัฐบาลนิวซีแลนด์มีความพร้อมที่จะสนับสนุนการจัดการฝึกอบรมด้านการข่าวกรองต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ ทั้งสองท่านยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายและสร้างสัมพันธมิตรอันดีระหว่างประเทศ นอกจากองค์ความรู้ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ละประเทศยังต้องอาศัยการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ดังนั้นการฝึกอบรมฯ ครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จในการยกระดับองค์ความรู้ด้านข่าวกรองให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เป็นบุคลากรสำคัญของทั้ง 4 ประเทศ รวมทั้งเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ได้ทำความรู้จักกันเพื่อประโยชน์ในการประสานความร่วมมือในอนาคตต่อไป