เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2568 เวลา 8.30น. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้ นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ สำนักงาน ป.ป.ส. นำคณะผู้แทนออสเตรเลีย ซึ่งนำโดย Ms. Kristie-Lee Cressy เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police: AFP) และ Mr. Hunter McGee เจ้าหน้าที่ประสานงาน คณะกรรมาธิการข่าวกรองอาชญากรรมแห่งออสเตรเลีย (Australian Criminal Intelligence Commission: ACIC) เข้าร่วมการศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับภารกิจการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดเชียงราย (นรข.เชียงราย) รวมถึงล่องเรือสำรวจลักษณะภูมิประเทศบริเวณลำแม่น้ำโขง เพื่อสำรวจเส้นทางและภูมิประเทศตลอดแนวลำน้ำโขง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ใช้ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย และพบปัญหาการกระทำผิดกฎหมายหลายรูปแบบ เนื่องมาจากข้อจำกัดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และสภาพภูมิประเทศที่เอื้อต่อการหลบเลี่ยงการตรวจสอบ และได้รับทราบภารกิจและผลการดำเนินงานของ นรข.เชียงราย รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน
ต่อมา คณะฯ ได้เข้าเยี่ยมชมวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (วปส.) รวมถึงเยี่ยมชมหอฝิ่นอุทยานแห่งชาติสามเหลี่ยมทองคำ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ วปส. พร้อมทั้งรับฟังแนวทางการพัฒนา วปส. ให้เป็นสถานที่สนับสนุนการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยาเสพติด และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านการเข้าร่วมการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ และเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรสำหรับนานาประเทศ พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย (SMCC) เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงปฏิบัติการด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดร่วมกันในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำ รวมถึง AFP ภายใต้ Taskforce Storm พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ แหล่งผลิตยาเสพติดประเภทต่าง ๆ และการจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรายสำคัญในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาภายใต้กลไกความร่วมมือศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย
ในห้วงบ่าย นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ได้นำคณะเดินทางศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ณ ด่านศุลกากรแม่สาย สะพาน 1 โดยได้รับทราบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเส้นทางการค้าและการส่งออก - นำเข้าสินค้า 2 เส้นทาง คือ เส้นทาง R3A ที่เริ่มต้นจากประเทศจีน ผ่านประเทศเมียนมา ปลายทางคือด่านศุลกากรแม่สาย และเส้นทาง R3B ที่เริ่มต้นจากประเทศจีน ผ่านประเทศลาว ปลายทางคือ ด่านศุลกากรเชียงของ รวมถึงการรายงานสถิติการนำเข้า - ส่งออก สินค้าผ่านด่านแม่สาย ศุลกากรแม่สาย ประจำปี พ.ศ.2568 โดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท และมูลค่าสินค้านำเข้าสูงถึง 1 พันล้านบาท ถือเป็นดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 9 พันล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ สำหรับการรายงานการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พบว่า ในปี พ.ศ. 2564 มีการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ในปีพ.ศ. 2565 ไม่พบการจับกุมยาเสพติด เนื่องจากปิดด่าน ด้วยเหตุสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และในปี พ.ศ. 2566 มีการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดมูลค่ารวมกว่า 31 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2567 มีการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดมูลค่ารวม 300,000 บาท ซึ่งสาเหตุหลักที่ส่งผลให้สถิติการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดลดลง เนื่องจากมีการส่งออกสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ออกนอกประเทศลดลง สำหรับปี พ.ศ. 2568 มีการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดมูลค่ารวมกว่า 3.9 ล้านบาท
จากนั้น คณะฯ ได้รับทราบแนวปฏิบัติการเชิงรุกในการลาดตระเวนเข้าตรวจสอบพัสดุนำเข้าผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ซึ่งทางศุลกากรสามารถเข้าตรวจค้นได้โดยไม่มีหมายค้นในพื้นที่เขตควบคุมพิเศษศุลกากร และบริเวณพิเศษ ตามกฎกระทรวงการคลัง โดยนอกจากการลาดตระเวนตรวจค้นแล้ว เจ้าหน้าที่ศุลกากรยังได้รับข้อมูลจากพนักงานบริษัทขนส่ง ต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะเข้าตรวจยึด และประสานงานร่วมกับหน่วยงานตำรวจ ทหาร และสำนักงาน ปปส. ภาค 5 เพื่อติดตามขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้รับชมการสาธิตการใช้งานเครื่องตรวจพัสดุต้องสงสัยแบบมือถือ (Handheld Scanner) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ
ทั้งนี้ คณะฯ ยังได้มีโอกาสเยี่ยมชม และสังเกตการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตลอดจน กำลังของหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่เกี่ยวข้อง ณ ด่านศุลกากรแม่สาย 1 ตลอดจนสังเกตการณ์สภาพภูมิประเทศตลอดแนวชายแดนบริเวณดังกล่าว ซึ่งทำให้สามารถเข้าใจบริบทและความท้าทายในการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นยาเสพติด ได้ดียิ่งขึ้น