วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (คณะกรรมการ ป.ป.ส.) ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายศิริสุข ยืนหาญ นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายเผ่าพันธ ชอบน้ำตาล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายพงศ์พิเชษฐ์ จันทรพรกิจ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด พลตำรวจโท สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พลเรือโท วีรุดม ม่วงจีน รองเสนาธิการทหารเรือ พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี รองเสนาธิการ ทหารอากาศ และพลตรี เทวินทร์ เทศนธรรม รองเจ้ากรมยุทธการทหารบก ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธานการประชุม ได้กล่าวเปิดการประชุมและชื่นชมการดำเนินการของ นบ.ยส ที่มีผลงานการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก ตามปฏิบัติการ Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน และขอให้ นบ.ยส. ทุกแห่ง เพิ่มมาตรการด้านการข่าว เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้กระทำผิดอย่างชัดเจน และต้องดำเนินงานทุกมาตรการอย่างเข้มข้นทั้งปราบปราม บำบัดรักษา รวมทั้งเสริมสร้างพลังชุมชนให้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและปลอดภัยจากยาเสพติด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการก่ออาชญากรรม ขอให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดกับการจับและยึดทรัพย์ผู้ค้าและผู้เสพ รวมทั้งให้ความสำคัญกับกระบวนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด และจัดทำระบบรายงานผลการดำเนินงาน โดยให้กำหนดเป็นตัวชี้วัดผลงานที่สำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานและจัดทำแผนกำกับ ติดตาม และสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ สำหรับการประชุมวันนี้ ได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญหลายประเด็น อาทิ การปรับเป้าหมายแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2568 ในช่วงหลังของปีงบประมาณ โดยปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเร่งรัดการดำเนินการด้านการปราบปรามและป้องกันยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ และที่ประชุม ยังได้พิจารณาการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควายเพื่อใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย ซึ่งเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควายเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. 2568 นอกจากนี้ ที่ประชุม ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยกำหนดให้พื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่จำเป็นเร่งด่วน ประกาศพื้นที่เพิ่มเติมในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดเพิ่มเติม เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้าและลำเลียงยาเสพติดในห้วงที่ผ่านมา เพื่อให้การปราบปรามและสกัดกั้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ให้ครอบคลุมปัญหามากขึ้นในช่วงสุดท้ายประธานการประชุม ได้เน้นย้ำเพื่อกำกับ ติดตาม การแก้ไขปัญหาในการลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติด พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันภายใต้แผนปฏิบัติการเดียวกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดปัญหายาเสพติดในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและความมุ่งมั่นของภาครัฐในการเดินหน้าปราบปรามและป้องกันยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในด้านการบังคับใช้กฎหมาย และการใช้ประโยชน์จากการวิจัยจากพืชเสพติดตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการลดผลกระทบจากยาเสพติดต่อสังคมไทยในระยะยาว