พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานให้การต้อนรับคณะผู้แทนออสเตรเลีย นำโดย Ms. Kristie-Lee Cressy เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police: AFP) และ Mr. Hunter McGee เจ้าหน้าที่ประสานงาน คณะกรรมาธิการข่าวกรองอาชญากรรมแห่งออสเตรเลีย (Australian Criminal Intelligence Commission: ACIC)

เมื่อวันที่ : 22 พ.ค. 2568 09:12
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
10 ครั้ง
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 9.30 น. ณ ห้องรับรองเภา สารสิน สำนักงาน ป.ป.ส. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานให้การต้อนรับคณะผู้แทนออสเตรเลีย นำโดย Ms. Kristie-Lee Cressy เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police: AFP) และ Mr. Hunter McGee เจ้าหน้าที่ประสานงาน คณะกรรมาธิการข่าวกรองอาชญากรรมแห่งออสเตรเลีย (Australian Criminal Intelligence Commission: ACIC) ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ เนื่องจากเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ยาเสพติดของประเทศไทยในภาพรวม ทั้งนี้ แม้ว่าไทยจะไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด แต่ได้รับผลกระทบจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยมี 4 ตัวยาหลัก ได้แก่ เฮโรอีน ไอซ์ คีตามีน ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และยาบ้าที่เป็นปัญหาหลักของประเทศไทย โดยเน้นย้ำถึงความพยายามของไทยในการผลักดันให้ปัญหายาบ้าได้รับการรับรู้ในระดับสากล เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะต่างจากเมทแอมเฟตามีนชนิดอื่น คือมีเมทแอมเฟตามีนประมาณร้อยละ 20 และกาเฟอีนร้อยละ 80 โดยประเทศไทยได้ยกระดับประเด็นปัญหายาบ้าเป็นวาระร่วมของนานาชาติในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 68 และได้ขอความร่วมมือจากประเทศสมาชิกในการสนับสนุนการวิจัยยารักษาผู้ใช้ยาบ้า โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการด้านสารเสพติดเกี่ยวกับยาบ้า เมทแอมเฟตามีน และยาเสพติดสังเคราะห์ในห้วงเดือนสิงหาคม 2568 พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการวิจัยให้กับเครือข่ายวิชาการ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 12 ล้านบาท
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นตามแนวชายแดน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ผนึกกำลังร่วมกับกองทัพบกและกองทัพเรือและระดมงบประมาณสนับสนุนในฐานะกลไกหลัก และมีผลการดำเนินงานสกัดกั้นตามแนวชายแดนได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 20 เท่า ส่งผลให้มีการเปลี่ยนเส้นทางลักลอบลำเลียงโดยไม่ผ่านประเทศไทย อีกทั้งในห้วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้นหลังจากประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้ ตามแนวคิด “ผู้เสพคือผู้ป่วย/เหยื่อ ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นปราบปราม ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ยาบ้ามีราคาสูงขึ้นและหาได้ยากขึ้น
นอกจากความร่วมมือกับ AFP ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการสืบสวนขยายผลเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติระหว่างทั้งสองประเทศภายใต้ปฏิบัติการ Taskforce Storm และการเพิ่มศักยภาพด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดภายใต้โครงการ AMPLIO ในการนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มความร่วมมือ โดยเฉพาะในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการขยายปฏิบัติการร่วมภายใต้ Taskforce Storm รวมถึงการมีส่วนร่วมในปฏิบัติการอื่น ๆ ของไทย เช่น ปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม โดยขอให้ฝ่ายออสเตรเลียเข้ามามีส่วนร่วมในกลไกศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย (Safe Mekong Coordination Centre : SMCC) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงไม่ให้กระจายไปสู่ประเทศที่สาม และมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ได้แก่ การจับกุม Mr. Ong Gim Wah นักค้าไอซ์ข้ามชาติรายสำคัญสัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สปป.ลาว มาเลเซีย ไทย รวมถึง AFP ภายใต้ Taskforce Storm
Ms. Kristie-Lee Cressy ได้กล่าวขอบคุณที่เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้การต้อนรับ และแสดงความชื่นชมสำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะพันธมิตรสำคัญของออสเตรเลีย และได้ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ยาเสพติดในออสเตรเลีย ซึ่งปัญหาหลัก คือ ไอซ์ โดยหวังว่าจะได้ขยายความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต และยินดีต้อนรับคณะผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศออสเตรเลีย ในการนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญถึงความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างทั้งสองฝ่าย เนื่องจากตระหนักดีว่า ปัญหายาเสพติดไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นปัญหาร่วมกันของทั้งภูมิภาค
ต่อมา คณะผู้แทนออสเตรเลียได้เข้าร่วมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ยาเสพติด รวมถึงโครงสร้าง นโยบาย และการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ส. และศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ปฏิบัติการ ป.ป.ส. โดยคณะฯ ได้ให้ความสนใจ
ระบบการรายงานข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ยาเสพติดผ่านระบบ ONCB NEWS การแจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่านสายด่วน 1386 และระบบตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติ (License Plate Recognition) หลังจากนี้ ในวันที่ 21 - 23 พฤษภาคม 2568 คณะฯ จะเดินทางไปเข้าร่วมการศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งครอบคลุมทั้งมิติการสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรระหว่างประเทศโดยวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (วปส.) การดำเนินงานของศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย และการพัฒนาทางเลือก ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ