วันพุธที่ 9 เมษายน 2568 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) มอบหมายให้นางสาวรัชนีกร สรสิริ ที่ปรึกษา สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือด้านยาเสพติดอาเซียน (ASEAN - NARCO) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย นำคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย รศ.ดร. มานพ คณะโต ผู้อำนวยการเครือข่ายพัฒนาวิชาการและข้อมูลสารเสพติด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รศ.พ.ต.ต.หญิง ดร.พูนรัตน์ ลียติกุล ผู้แทนเครือข่ายพัฒนาวิชาการและข้อมูลสารเสพติด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนางสาวสุพจนี ชุติดำรง รักษาการในตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ สำนักพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมด้วยผู้แทนจาก สำนักปราบปรามยาเสพติด และ สำนักการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมเครือข่ายข้อมูลเฝ้าระวังยาเสพติดอาเซียน (ASEAN Drug Monitoring Network Meeting: ADMN) ครั้งที่ 18 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เป็นวันที่สอง
ในช่วงเช้า รศ.ดร.มานพ คณะโต ได้นำเสนอผลการนำเข้าข้อมูลในระบบรายงาน ADMN Report System พร้อมทั้งเสนอเพิ่มข้อมูลการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดล่วงหน้าสามปีของแต่ละประเทศ ในรายงาน ADMN ปีต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับประเทศสมาชิกในการนำข้อมูลไปใช้สนับสนุนเชิงนโยบายในการวางแผนและจัดสรรทรัพยากรในอนาคตได้
จากนั้นที่ประชุมได้แบ่งกลุ่มประชุมย่อยออกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านอุปสงค์ยาเสพติด ด้านอุปทานยาเสพติด และด้านการจัดการข้อมูล เพื่อหารือถึงปัญหาและแนวทางปรับปรุงระบบ ADMN ให้มีความเสถียรภาพและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งประเทศสมชิกต่างได้แลกเปลี่ยนปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปรับปรุงระบบ ADMN Report System
ทั้งนี้ ประเทศไทยในฐานะผู้ดูแลระบบจะนำข้อมูลดังกล่าวไปปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นต่อไป
ในห้วงบ่ายที่ประชุมได้ร่วมกันหารือพร้อมทั้งรับรองแผนงาน ADMN ในปี ค.ศ. 2025 - 2026 ซึ่งนางสาวรัชนีกร สรสิริ เป็นผู้นำเสนอ พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เปลี่ยนการใช้ชื่อรายงาน ASEAN DRUG MONITORING report (ADMN) ให้ตรงตามปีที่เผยแพร่ เช่น รายงานที่เผยแพร่ในปี 2026 ควรระบุว่าเป็น "รายงาน ADMN ปี 2026" แม้ใช้ข้อมูลของปี 2025 ตามที่ฝ่ายไทยเสนอ
ในช่วงท้าย นายอาร์มันโด อี ราโมเลเต้ ประธานการประชุม ได้กล่าวขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียนสำหรับความร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูล พร้อมเน้นย้ำว่าความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิกเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาค และการประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของการร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อนำไปสู่ภูมิภาคอาเซียนที่ปลอดภัยจากยาเสพติดในอนาคต