วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568 นายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 และนางสมพิศ แสงบุญเกิด ผอ.ส่วนประสานพื้นที่ พร้อมคณะ ปฏิบัติราชการ  ณ จังหวัดลพบุรี ดังนี้ 
        เวลา 14.30 น. ได้เข้าร่วมประชุม ศอ.ปส.จ.ลพบุรี ครั้งที่ 3/2568  ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดลพบุรี โดยมีนายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการประชุม          โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เช่น อัยการจังหวัดลพบุรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เช่น ปกครอง/สาธารณสุข/ตำรวจ/พัฒนาชุมชน/เรือนจำ/อปท. เป็นต้น รวมผู้เข้าร่วมทั้งสิ้นประมาณ 60 คน สรุปข้อมูลการประชุมที่สำคัญดังนี้ 
         1) ผู้แทน ปปส.ภ.1 นำเสนอ 2 ประเด็นสำคัญ ดังนี้ สถานการณ์ยาเสพติดพื้นที่ ภาค 1 และ นโยบายและข้อสั่งการที่สำคัญในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พร้อมเร่งรัดการนำเข้าข้อมูลการประเมินสถานะหมู่บ้าน/ชุมชน ในระบบ NISPA+ โดยจังหวัดลพบุรี นำเข้าข้อมูลผลการประเมินสถานะหมู่บ้าน/ชุมชน ณ วันที่ 25 มีนาคม 2568 ร้อยละ 94  โดยกำหนดห้วงเวลาการประเมินสถานะหมู่บ้านชุมชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 
         2) เลขานุการ ศอ.ปส.จ. ลพบุรี ได้นำเสนอผลการดำเนินงานในแต่ละตัวชี้วัด ทั้ง 17 ตัวชี้วัด ซึ่งพบว่าบางตัวชี้วัดโดยเฉพาะตัวชี้วัดมาตรการด้านปราบปรามยังมีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าเกณฑ์  เช่น ตัวชี้วัดสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ตัวชี้วัดเครือข่ายรายสำคัญ รวมไปถึงตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังไม่มีการรายงานผลการดำเนินการ ประธานที่ประชุมจึงเน้นย้ำให้แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบตัวชี้วัดดังกล่าว เร่งดำเนินการพร้อมรายงานผลการดำเนินการในระบบ NISPA+
            3) เจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบในแต่ละมาตรการ ได้รายงานผลการดำเนินงาน 1) มาตรการด้านป้องกัน เช่น สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลพบุรี รายงานผลการดำเนินการทั้งในเชิงปริมาณ และในเชิงคุณภาพ ซึ่งพบว่าจังหวัดลพบุรีเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินที่ยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้ และศึกษาดูงานในหลายๆพื้นที่ เช่น ศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านหนองปล้อง หมู่ที่ 5 ต.ชอนสารเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน หมู่อื่นๆ  นำแนวทางการดำเนินการไปขับเคลื่อนเพื่อยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ต่อไป 2) มาตรการด้านบำบัดรักษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุข ได้นำเสนอผลการดำเนินงาน ซึ่งพบว่าแม้ผลการดำเนินงานในบางตัวชี้วัด อาทิ ตัวชี้วัดผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด จะมีผลการดำเนินงานไม่สูงมากนัก แต่ทางสำนักงานสาธารณสุขมีความเชื่อมั่นว่าสามารถดำเนินการในตัวชี้วัดให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่กำหนดได้ โดยคาดหวังว่าการดำเนินการโครงการในหลายๆโครงการ เช่น โครงการชุมชนยั่งยืนของตำรวจภูธรจังหวัด โครงการชุมชนล้อมรักษ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งโครงการเหล่านี้มีการค้นหาคัดกรองผู้เสพ/ผู้ติด ทำให้การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวจักสามารถส่งผลต่อการดำเนินงานให้เป็นไป      ตามเป้าหมายที่กำหนดได้ 3) มาตรการด้านปราบปราม ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี นำเสนอผลการดำเนินงาน ซึ่งพบว่าปัญหาอุปสรรคส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายตัวชี้วัดได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติยังขาดความชำนาญการทำงาน อาทิ การดำเนินการมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ นอกจากนั้นยังมีความเข้าใจไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินการในการแจ้งข้อหา สมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ โดยทางผอ.ปปส.ภ.๑ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแจ้ข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือให้แก่ ภ.จว.ลพบุรี ทราบ รวมไปถึงอัยการจังหวัดลพบุรีได้ชี้แจงเพิ่มเติมในรายละเอียดดังกล่าว 
        4) ผอ.ปปส.ภ.1 ได้ชี้แจงแนวทางการดำเนนิการตามนโยบายแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ 2568 ซึ่งได้มีการให้ข้อเสนอแนะนำการดำเนินการแก่หน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดลพบุรีที่สำคัญ ดังนี้
            4.1 การสนับสนุนให้เครือข่ายภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามผู้เสพ ผู้ติด โดยในพื้นที่ ปปส.ภ.๑ มีบางจังหวัด เช่น จ.สมุทรปราการ ได้นำ ศตส.ภาคประชาชน เข้ามีส่วนร่วมในการติดตาม และมีการรายงานผลการดำเนินการในที่ประชุม ศอ.ปส.จ. ทุกเดือน 
            4.2 สนับสนุนการขยายโรงพยาบาลซึ่งมีลักษณะเป็นมินิธัญญารักษ์ของจังหวัดลพบุรี เพิ่มเติม เนื่องจากพบว่า จำนวนเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยผู้เสพ ผู้ติด ผู้มีอาการทางจิต ของจังหวัดลพบุรี ยังไม่เพียงพอ เห็นควรมีการขยายพื้นที่ในการบำบัดรักษาดังกล่าว 
            4.3 สนับสนุนให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี มีการดำเนินการตามโครงการธวัชบุรีโมเดล โดยควรมีการไปศึกษาเรียนรู้ดูงานแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่จังหวัดลพบุรีโดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี มีความสนใจในการแนวทางดังกล่าว 
            4.4 ขอความร่วมมือให้แต่ละอำเภอคัดเลือกหมู่บ้านชุมชน ที่มีปัญหายาเสพติด และกำหนดเป็นเป้าหมายในการดำเนินการ 1 หมู่บ้านชุมชนต่อ 1 อำเภอ โดยจังหวัดลพบุรีได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายครบทั้ง 11 อำเภอเสนอแก่ที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว 
           4.5 เสนอแนะให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรีเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องเรียนเกี่ยวกับจังหวัดลพบุรีกับเป้าหมายเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทาง 1386 โดยทางศูนย์ดำรงธรรม สามารถประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ต่อไป 
          4.6 การดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุมัติข้อหาสมคบสนับสนุนช่วยเหลือจักมีการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจทีรับผิดชอบคดีมาชี้แจงข้อมูลรายละเอียดต่อที่ประชุมอนกรรมการสมคบ เนื่องจากจักสามารถทำให้สามารถได้รับการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการได้เพิ่มมากขึ้น นอจากนั้นได้ชี้แจงเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการแจ้งข้อกล่าวหาสมคบโดยการขออนุมัติเลขาธิการ ป.ป.ส. และการแจ้งข้อกล่าวโดยพนักงานอัยการโดยการแจ้งข้อกล่าวหาในสำนนวนค้ำฟ้อง หากเป็นกรณีดังกล่าวขอความร่วมมือสำเนารายละเอียดคดีดังกล่าวส่งมายังสำนักงาน ปปส.ภ.๑ อีกทางหนึ่ง 
หลังจากนั้น เวลา 18.00 น. ผอ.ปปส.ภ.1 พร้อมคณะได้ร่วมประชุมกำหนดแนวทางกับนายปรัชญา  เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมผูแทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลพบุรี ในการกำหนดแผนงานดำเนินการเกี่ยวกับผู้เสพ ผู้ติด ผู้มีอาการทางจิต โดยการนำเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ พร้อมหารือโครงการกิจกรรมที่จักสามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มต่างๆ เช่น การปรับเจตคติแก่ผู้เสพ ผู้ติด และครอบครัวของผู้เสพ ผู้เสพ เป็นต้น นอกจากนั้นได้ขอความร่วมมือสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลพบุรี ดำเนินการจัดทำโครงการอบรมวิทยากรครู ค เป้าหมายหมูบ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินซึ่งเป็นหมู่บ้านแพร่ระบาดตามแผนปฎิบัติการปี 68 และมีผลการประเมินในระดับ b,c โดยเน้นดำเนินการในระดับ c เป็นลำดับแรก รวมไปถึงขอความร่วมมือจัดทำแผนปฎิบัติการการขับเคลื่อนงานกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัดให้สอดรับกับแผนปฎิบัติการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ระยะ 3 ปี