วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ให้การต้อนรับ Mr. Marc DAGORN
ผู้อำนวยการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กรมศุลกากรและภาษีทางอ้อม สาธารณรัฐฝรั่งเศส และคณะผู้แทน ในโอกาสเยือนประเทศไทย และหารือข้อราชการระหว่างสองประเทศ โดยมีนายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ณ ห้องรับรองเภา สารสิน สำนักงาน ป.ป.ส.
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ได้กล่าวต้อนรับพร้อมทั้งแสดงความขอบคุณที่ทางฝรั่งเศส ได้เชิญสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าร่วมการสัมมนาระดับภูมิภาคของเจ้าหน้าที่ประสานงานฝ่ายศุลกากรฝรั่งเศส ประจำภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง ที่จะจัดขึ้นในวันพุธ
ที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นี้
โดยในการหารือ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การลักลอบขนกัญชาจากประเทศไทยไปยังยุโรป โดยเฉพาะการใช้สนามบิน ปารีส ชาร์ล เดอ โกล เป็นจุดเชื่อมต่อเพื่อลำเลียงกัญชาสู่สหราชอาณาจักรและประเทศอื่นในยุโรป พร้อมเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองและสืบสวนคดีร่วมกัน ระหว่างไทยและฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังและสกัดกั้น ผ่านทาง สำนักงาน ป.ป.ส.
ร่วมไปถึงเพิ่มความร่วมมือผ่านกลไกคณะทำงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากล (AITF) และ คณะทำงานสกัดกั้น
และปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าเรือ (SITF) ที่สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะทำงานการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้แจ้งแผน
ที่จะมีการจัดฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เพื่อพัฒนาศักยภาพ ในการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกกัญชาจากผู้โดยสารและสัมภาระ จำนวน 2 รุ่น ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งผู้แทนฝรั่งเศสได้ให้ความสนใจและพร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้ และประสบการณ์ นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการลักลอบนำเข้าเอ็กซ์ตาซี (Ecstasy) ซึ่งส่วนใหญ่งพบว่ามีการลักลอบผลิตในประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้วถูกลักลอบขนส่งผ่านทางฝรั่งเศสและเยอรมัน ในรูปแบบพัสดุภัณฑ์มายังประเทศไทย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยและรูปแบบการลักลอบ (Modus Operandi) เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้แลกเปลี่ยนสถานการณ์ยาเสพติดในไทยและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายแสดงความกังวลต่อแนวโน้ม
การย้ายฐานการผลิตยาเสพติดจากอัฟกานิสถานสู่สามเหลี่ยมทองคำในเมียนมา ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบโดยตรง
ต่อสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทยที่มีพรมแดนติดกัน โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เน้นถึงความสำคัญของการดำเนินมาตรการสกัดกั้น
ยาเสพติดจากแหล่งผลิตดังกล่าวร่วมกับกองทัพบก รวมถึงการผลักดัน โครงการพัฒนาทางเลือก (Alternative Development) ในพื้นที่ที่อยู่
ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ลดการพึ่งพาการผลิตยาเสพติด และผลักดันกระบวนการสันติภาพในเมียนมา ทั้งนี้ ทางผู้แทนฝรั่งเศสแสดงความสนใจและพร้อมผลักดันแนวคิดนี้ในเวทีระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN) และกรอบความร่วมมืออาเซียน เพื่อสนับสนุนกระบวนการพัฒนาทางเลือกและลดการผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดย Mr. Marc DAGORN
จะนำประเด็นนี้ไปหารือกับรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อร่วมสนับสนุนประเทศไทยในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในกรอบการเจรจาพหุภาคีระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในห้วงท้ายของการหารือพลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนการประสานงานกับประเทศฝรั่งเศส
โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติและรูปแบบการลักลอบขนส่งยาเสพติด เพื่อพัฒนาความร่วมมือในทุกมิติ รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งได้เรียนเชิญผู้แทนกรมศุลกากรฯ ฝรั่งเศส ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำ ณ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อจะได้นำไปสู่การเสนอแนวคิดและพัฒนาแนวทางความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น การหารือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ
ในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและฝรั่งเศส และเสริมสร้างมาตรการความร่วมมือด้านยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองประเทศต่อไป