สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชูความคืบหน้าผลงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยต่อประชาคมโลก

เมื่อวันที่ : 15 พ.ย. 2567 00:00

หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

6 ครั้ง

สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชูความคืบหน้าผลงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยต่อประชาคมโลก

เมื่อวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2567 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ
รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะ นำคณะผู้แทนไทยนำเสนอผลงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทย
ในการประชุมระหว่างสมัยของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs : CND) สมัยที่ 67

ในการอภิปรายประเด็นความท้าทาย เรื่อง ประเภทและตลาดยาเสพติดที่ขยายตัว ผู้แทนบช.ปส. ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามของประเทศไทย โดยเน้นย้ำการใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง เพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามตามแนวชายแดน
การยึดและอายัดทรัพย์สิน การร่วมมือกับภาคเอกชนในการตรวจสอบการซื้อขายยาเสพติดออนไลน์ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง
อย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกประเทศ ตลอดจนการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทใหม่

ในประเด็นความท้าทาย เรื่อง โอปิออยด์สังเคราะห์และการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ที่ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ นายอภิกิตฯ
ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามสำนักงาน อย.ซึ่งเน้นย้ำการควบคุมสารโอปิออยด์สังเคราะห์ และป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิดผ่านการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนเพื่อจัดหายาที่จำเป็นสำหรับสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ผู้ป่วยระยะประคับประคองเข้าถึงยา
กลุ่มโอปิออยด์ได้สะดวกมากขึ้น การเฝ้าระวังและควบคุมการใช้ยาทรามาดอลผ่านการออกมาตรการควบคุมการจ่ายยาในร้านขายยา และจับกุมผู้ลักลอบผลิตและขายยาดังกล่าว ตลอดจนริเริ่มแนวคิดการพัฒนายาเพื่อการบำบัดและใช้ยาทดแทนยาบ้า

สำหรับความท้าทายในการปลูกและผลิตยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทผิดกฎหมาย ศาสตราจารย์เกียรติคุณพงศ์ศักดิ์
อังกสิทธิ์กรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ได้เข้าร่วมอภิปรายในฐานะผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้เน้นย้ำแนวทางการจัดการกับความท้าทายที่ส่งผลต่อการพัฒนาทางเลือกที่อาจส่งผลให้การเพาะปลูก การผลิต และการลักลอบค้ายาเสพติดกลับมาอีกครั้ง โดยการตอบสนองความต้องการพื้นฐานและปัญหาของประชาชน พร้อมทั้งได้เชิญชวนประเทศสมาชิกเข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติด้านการพัฒนาทางเลือก ระหว่างวันจันทร์ที่ 1 - วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2567 ณ จังหวัดเชียงใหม่

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและบทเรียนที่ได้รับเกี่ยวกับการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน
ซึ่งมิสฆอดะห์ วาลี ผู้อำนวยการบริหาร UNODC จะเข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาด้วย

ในส่วนประเด็นท้าทาย เรื่อง การลักลอบค้าสารตั้งต้นและวัตถุออกฤทธิ์ผิดกฎหมาย และการรั่วไหลของสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์
นายอภิกิตฯ ได้กล่าวถ้อยแถลง โดยเน้นย้ำสถานการณ์ปัญหาในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงการรั่วไหลของสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ใน
เข้าสู่พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ มีการแบ่งปันข้อมูลรายการสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ร่วมกับประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงผ่านการสนับสนุนจาก UNODC การแบ่งปันข้อมูลการนำเข้าส่งออกสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์โดยใช้ระบบ PEN Onlineและระบบ PICS พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก UNODC และ INCB สนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถด้านการตรวจพิสูจน์สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ และการจัดการและทำลายยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ที่ยึดได้อย่างปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้แก่ประเทศในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงต่อไป

สำหรับประเด็นความท้าทาย เรื่อง ความท้าทายด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ และระเบียบข้อบังคับในการขึ้นบัญชีวัตถุออกฤทธิ์
ผู้แทนไทยได้เน้นย้ำความสำคัญกับการแบ่งปันข้อมูลการวิเคราะห์สารจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในประเทศ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลสารเสพติดชนิดใหม่ที่ตรวจพบหรือข้อมูลการระบาดเพื่อประกาศควบคุมสารในประเทศ

ในช่วงสุดท้ายเป็นการอภิปรายในประเด็นความท้าทายอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในปฏิญญารัฐมนตรีฯ ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส.
ได้เน้นย้ำความคืบหน้าของประเทศไทยในการจัดการกับความท้าทายในการจัดทำและบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งสนับสนุนแนวทางสาธารณสุขนำโดยเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย และบำบัดรักษาผู้เสพอย่างเหมาะสม รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์คัดกรอง รักษาและบำบัด
ผู้ติดยาเสพติด และศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดให้คืนสู่สังคมให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดได้อย่างทั่วถึง
และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก และ UNODC สนับสนุนและร่วมแบ่งปันข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนายารักษาผู้ติดยาบ้า

ตลอดจนเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก และ UNODC สนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถในการระบุและการตรวจพิสูจน์ลักษณะเฉพาะ
ยาเสพติดชนิดใหม่ ให้แก่ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำมีประสิทธิภาพ
เพิ่มมากขึ้น

คณะผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับเชิญให้ไปศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ GRIDS Cyber-Communications Centre ซึ่งมีการนำเสนอระบบ
สแกนหาสารเสพติดรูปแบบใหม่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ (the OPIOIDS Project Scanning Novel Opioids on Online Platforms Platforms: SNOOP) เพื่อติดตามข้อมูลบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสกัดกั้นการนำเข้าและส่งออกสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2568 และจะมีการจัดฝึกอบรมให้แก่
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับวิธีการใช้งานระบบดังกล่าว

ผู้เขียน : บริษัท โอเพ่นเทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)

ภาพโดย : บริษัท โอเพ่นเทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำนักงาน ป.ป.ส. ขอเชิญชวน ประชาชนทั่วประเทศ ร่วมส่ง 💬 คำขวัญ: รณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2569