เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2567 ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและสหราชอาณาจักรได้จัดประชุมหารือแนวทางการลดการลักลอบขนกัญชาออกจากประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานโดยการประชุมฯครั้งนี้มีผู้แทนจากหลากหลายหน่วยงานทั้งสองประเทศเข้าร่วม ได้แก่ หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Crime Agency: NCA) และฝ่ายปฏิบัติการระหว่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สหราชอาณาจักร (Home Office International Operations: HOIO) และผู้แทนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามข้อสั่งการของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งหารือร่วมกับผู้แทนฝ่ายสหราชอาณาจักร เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การลักลอบขนกัญชาจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักรผ่านทางอากาศยานอย่างทันท่วงที ซึ่งต่อมาเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท. ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส และนาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทน NCA ได้หารือร่วมกัน และเห็นชอบให้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงกัญชา ณ ท่าอากาศยานอย่างเร่งด่วน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนามาตรการป้องกันและตรวจสอบการลักลอบส่งกัญชาและยาเสพติดผ่านทาง ท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศไทยซึ่งผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การลักลอบขนส่งกัญชา ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยผู้แทนของคณะทำงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากล Airport Interdiction Taskforce (AITF) ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบตรวจสอบและการประสานงานระหว่างหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบขนกัญชาและยาเสพติดชนิดต่างทั้งในการนำเข้าและส่งออก
โดยตัวแทนจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำเสนอเกี่ยวกับมาตรการควบคุมกัญชา ซึ่งครอบคลุมการวิจัย การส่งออก และการแปรรูปเพื่อการค้าของประเทศไทย ทั้งหมดต้องได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายซึ่งการควบคุมดังกล่าวเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ประกอบกับพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะมีการตราพระราชบัญญัติกัญชา ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจะเป็นกฎหมายที่กำหนดมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับกัญชาโดยตรง อันจะช่วยส่งเสริมการควบคุมการใช้ประโยชน์กัญชาให้รัดกุมมากและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้แทนกรมศุลกากรยังได้ชี้แจงข้อกฎหมายในส่วนของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่งได้มีการควบคุมการส่งออกกัญชา ซึ่งได้มีการควบคุมการส่งออกกัญชา ซึ่งจัดว่าเป็นของต้องกำกัด หากส่งออกโดยผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำคุกสูงสุด 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้แทนจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้อธิบายขั้นตอนและอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจค้นสัมภาระและผู้โดยสาร ซึ่งรวมถึงระบบ Hold Baggage Screening (HBS) และการตรวจสอบโดยใช้ Explosive Detection System (EDS) เพื่อคัดกรองสิ่งของต้องสงสัยและวัตถุอันตรายป้องกันการลักลอบวัตถุอันตรายและสิ่งของผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ระบบการตรวจสอบสัมภาระและการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐาน และแนวปฏิบัติของท่าอากาศยานทั่วโลก
NCA ได้กล่าวขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการจัดการประชุมหารือและศึกษาดูงานครั้งนี้ รวมทั้งการปฏิบัติงานที่เข้มแข็งและได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทยในการเสริมสร้างศักยภาพการตรวจสอบสัมภาระ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเพื่อยกระดับมาตรการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างสองประเทศเพื่อให้สามารถคัดกรองบุคคลต้องสงสัยได้อย่างแม่นยำและสกัดกั้นการลักลอบขนส่งกัญชาระหว่างทั้งสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ คณะผู้แทนจากสหราชอาณาจักรยังได้ร่วม ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการตรวจสอบสัมภาระและผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการและมาตรการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด
การประชุมฯ และการศึกษาดูงานในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร เพื่อยกระดับมาตรการสกัดกั้นการลักลอบขนส่งกัญชาและยาเสพติด พร้อมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับทั้งสองประเทศต่อไป