ไทย - อังกฤษ ร่วมมือสกัดกั้นการลักลอบขนกัญชา เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจค้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

เมื่อวันที่ : 18 ต.ค. 2567 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
6 ครั้ง
ไทย - อังกฤษ ร่วมมือสกัดกั้นการลักลอบขนกัญชา เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจค้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

oncbnews11-18-10-2567-1.jpg
 

              เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2567 ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและสหราชอาณาจักรได้จัดประชุมหารือแนวทางการลดการลักลอบขนกัญชาออกจากประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานโดยการประชุมฯครั้งนี้มีผู้แทนจากหลากหลายหน่วยงานทั้งสองประเทศเข้าร่วม ได้แก่ หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Crime Agency: NCA) และฝ่ายปฏิบัติการระหว่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย     สหราชอาณาจักร (Home Office International Operations: HOIO) และผู้แทนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามข้อสั่งการของ      พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งหารือร่วมกับผู้แทนฝ่ายสหราชอาณาจักร เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การลักลอบขนกัญชาจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักรผ่านทางอากาศยานอย่างทันท่วงที   ซึ่งต่อมาเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท. ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส  และนาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทน NCA ได้หารือร่วมกัน และเห็นชอบให้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงกัญชา ณ ท่าอากาศยานอย่างเร่งด่วน

               สำหรับการประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนามาตรการป้องกันและตรวจสอบการลักลอบส่งกัญชาและยาเสพติดผ่านทาง            ท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศไทยซึ่งผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การลักลอบขนส่งกัญชา ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยผู้แทนของคณะทำงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากล  Airport Interdiction Taskforce (AITF) ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบตรวจสอบและการประสานงานระหว่างหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบขนกัญชาและยาเสพติดชนิดต่างทั้งในการนำเข้าและส่งออก

              โดยตัวแทนจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำเสนอเกี่ยวกับมาตรการควบคุมกัญชา ซึ่งครอบคลุมการวิจัย การส่งออก และการแปรรูปเพื่อการค้าของประเทศไทย ทั้งหมดต้องได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายซึ่งการควบคุมดังกล่าวเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ประกอบกับพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะมีการตราพระราชบัญญัติกัญชา ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจะเป็นกฎหมายที่กำหนดมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับกัญชาโดยตรง อันจะช่วยส่งเสริมการควบคุมการใช้ประโยชน์กัญชาให้รัดกุมมากและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้แทนกรมศุลกากรยังได้ชี้แจงข้อกฎหมายในส่วนของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่งได้มีการควบคุมการส่งออกกัญชา ซึ่งได้มีการควบคุมการส่งออกกัญชา ซึ่งจัดว่าเป็นของต้องกำกัด หากส่งออกโดยผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำคุกสูงสุด 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

               ผู้แทนจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้อธิบายขั้นตอนและอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจค้นสัมภาระและผู้โดยสาร ซึ่งรวมถึงระบบ Hold Baggage Screening (HBS) และการตรวจสอบโดยใช้ Explosive Detection System (EDS) เพื่อคัดกรองสิ่งของต้องสงสัยและวัตถุอันตรายป้องกันการลักลอบวัตถุอันตรายและสิ่งของผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ระบบการตรวจสอบสัมภาระและการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐาน และแนวปฏิบัติของท่าอากาศยานทั่วโลก

               NCA ได้กล่าวขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการจัดการประชุมหารือและศึกษาดูงานครั้งนี้     รวมทั้งการปฏิบัติงานที่เข้มแข็งและได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทยในการเสริมสร้างศักยภาพการตรวจสอบสัมภาระ                 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเพื่อยกระดับมาตรการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างสองประเทศเพื่อให้สามารถคัดกรองบุคคลต้องสงสัยได้อย่างแม่นยำและสกัดกั้นการลักลอบขนส่งกัญชาระหว่างทั้งสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ คณะผู้แทนจากสหราชอาณาจักรยังได้ร่วม ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการตรวจสอบสัมภาระและผู้โดยสาร            ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการและมาตรการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด

               การประชุมฯ และการศึกษาดูงานในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร เพื่อยกระดับมาตรการสกัดกั้นการลักลอบขนส่งกัญชาและยาเสพติด พร้อมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับทั้งสองประเทศต่อไป
 

oncbnews11-18-10-2567-4.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-6.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-5.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-2.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-3.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-7.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-8.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-9.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-10.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-11.jpg
 

oncbnews11-18-10-2567-12.jpg
 


 
YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ