ป.ป.ส. ศึกษาดูงานด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดในชุมชน (Community-based Treatment: CBTx) ณ จังหวัดบั๊กซาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

เมื่อวันที่ : 1 ต.ค. 2567 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
6 ครั้ง
ป.ป.ส. ศึกษาดูงานด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดในชุมชน (Community-based Treatment: CBTx) ณ จังหวัดบั๊กซาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

20241001-01_news1_01.jpg
 

 
          ในวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มอบหมายให้นายธนากร คัยนันท์ ที่ปรึกษา
การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ และผู้แทนจากกองสำนักที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการศึกษาดูงานด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
ในชุมชน (Community-based Treatment: CBTx) ณ จังหวัดบั๊กซาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รองอธิบดีกรมแรงงานและสวัสดิการ
พร้อมด้วยรองอธิบดีกรมการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยจากสำนักงาน ป.ป.ส.
 
          จังหวัดบั๊กซาง ได้ออกระเบียบการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาผู้ติดยาเสพติด ตามที่กฎหมายยาเสพติดของประเทศเวียดนาม
กำหนดไว้ จังหวัดบั๊กซาง มีสถานบำบัดของกรมแรงงานและสวัสดิการจำนวน 1 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 200 คน มีโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติดประเภทสารสังเคราะห์ จำนวน 50-70 เตียง มีศูนย์ควบคุมโรคระดับจังหวัดที่ให้การบำบัดด้วยเมทาโดน (Methadone) ระดับอำเภอมีหน่วยงานท้องถิ่นให้การสนับสนุนการบำบัดแบบสมัครใจในศูนย์บริการจำนวน 9 แห่ง โดยหน่วยงานในท้องถิ่น
จะต้องลงทะเบียนผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับการรักษาในชุมชน ผู้ป่วยจะได้รับการบริการทางการแพทย์ในขั้นถอนพิษยา ใช้ระยะเวลา 14 วัน
หลังจากนั้นจะมีผู้ให้คำแนะนำให้การรักษาด้านจิตใจ ให้ความรู้ ควบคุมผู้ป่วยไม่ให้กลับไปเสพซ้ำและช่วยจัดหางาน ทั้งนี้ ณ ปัจจุบันมีผู้ป่วย
ได้รับการบำบัดรักษา ณ จังหวัดบั๊กซาง จำนวน 2,266 คน ร้อยละ 99 เป็นเพศชายและอายุน้อยกว่า 18 ปี ร้อยละ 65 ติดเฮโรอีน ในส่วนที่เหลือเป็นยาเสพติดสังเคราะห์ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดบั๊กซาง มองเห็นในประเด็นดังกล่าวเป็นความท้าทาย เนื่องจาก (1) สถานที่บำบัดสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวนน้อย (2) งานบำบัดรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติดในชุมชนยังคงขาดแคลนเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์
และสังคม ส่งผลให้คุณภาพการดำเนินงานยังคงมีความไม่ต่อเนื่อง (3) ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาในระบบบังคับบำบัด ยังไม่มีกฎหมาย
หรือข้อกำหนดบังคับให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการติดตาม ส่งผลทำให้ขาดความต่อเนื่องในการติดตามหลังการบำบัด
 

นอกจากนี้ ประเทศไทยให้ความสนใจเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติดสังเคราะห์ในจังหวัดบั๊กซาง ว่าเป็นประเภทใด โดยผู้แทนจังหวัดบั๊กซางชี้แจงว่า มีการแพร่ระบาดของยาบ้าและไอซ์ในกลุ่มผู้มีฐานะยากจนและปานกลาง หากเป็นกลุ่มของคนมีฐานะจะใช้ยาอีและคีตามีน และผู้ติดยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดรักษาแล้ว และไม่กลับมาติดซ้ำยังคงมีจำนวนน้อย หลายคนผ่านการบำบัดแล้วยังไม่สามารถเลิกใช้
ยาเสพติดได้ สามารถกลับมารักษาด้วยเมทาโดนต่อได้ และมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านสังคมด้วยการจัดหางาน เช่น อาชีพแม่ครัว งานดูแลบ้าน เป็นต้น สำหรับผู้ติดยาเสพติดในกลุ่มฝิ่น ที่มีพฤติกรรมที่ดี ไม่มีอาการทางจิตเวช ควบคุมดูแลตัวเองได้ สามารถรับเมทาโดน
ไปรับประทานที่บ้านได้เป็นเวลา 10 วัน


 
          ในห้วงบ่าย คณะผู้แทนไทยจากสำนักงาน ป.ปส. เข้าร่วมศึกษาดูงาน ณ องค์กรปกครองท้องถิ่น ตำบลหว่าง วัน ถุ จังหวัดบั๊กซาง โดยมีรองผู้ว่านคร รองผู้กำกับ และตัวแทนกรมแรงงานและสวัสดิการสังคม จังหวัดบั๊กซางให้การต้อนรับ ตำบลหว่าง วัน ถุ มีประชากรรวมทั้งสิ้น 14,000 คน 2,836 ครัวเรือน มีผู้ติดยาเสพติด 22 คน รักษาโดยใช้เมทาโดน จำนวน 17 คน สาเหตุหลักที่ใช้ยาเสพติดมาจากปัญหาในครอบครัวและสังคมที่อยู่ การชักชวนจากเพื่อน
 
          การดูแลผู้ป่วยในตำบลนี้ มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการที่เรียกว่า 'กลุ่มนินจา' จำนวน 25 กลุ่ม ถูกมอบหมายให้สำรวจในพื้นที่รับผิดชอบ
เพื่อหาผู้ป่วยติดยาเสพติดและเป็นอาสาสมัครความมั่นคง ให้ความรู้เรื่องยาเสพติด การติดตามผู้ป่วยจะดำเนินการใน 2 ลักษณะ คือ
(1) การไปเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน (2) นัดหมายให้มาพบ วัตถุประสงค์ในการติดตามในลักษณะดังกล่าว เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยกลับไป
เสพยาเสพติดซ้ำ
 
          ทั้งนี้ ในประเทศเวียดนาม การเสพไม่เป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายเวียดนาม และจะได้รับการบำบัดแบบสมัครใจ แต่หากผู้เสพ
ผู้ติดยาเสพติดรายใดมีพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อสังคม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจัดทำและส่งสำนวนเพื่อดำเนินคดี ขึ้นสู่ศาล
ถ้าหากยอมรับการบำบัด จะได้รับการเบี่บงเบียนออกจากกระบวนการยุติธรรม ไม่มีประวัติทางคดี แต่หากถูกตัดสินโดยศาลจะได้รับโทษ
ฐานความผิดทางปกครอง โดยคณะจะได้เดินทางศึกษาดูงานการบำบัดรักษายาเสพติด ในจังหวัดกว๋างนิงค์ ต่อไป
 
 
20241001-01_news1_04.jpg
 
20241001-01_news1_05.jpg
 
20241001-01_news1_02.jpg
 
20241001-01_news1_03.jpg
 
20241001-01_news1_06.jpg
 

 
YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ