วันที่ 24 กันยายน 2567 นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีมอบทุนประกอบอาชีพให้แก่ผู้ผ่านการบำบัด
ในพื้นที่ และกลุ่มเสี่ยง ในพื้นที่ ปปส.ภ.1 พร้อมด้วยนางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส. ภาค 1 เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 1 และ
สมาชิกเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินภาค 1 โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน โดยภายในงานสำนักงาน ปปส.ภ.1 ได้ดำเนินการมอบทุน
ประกอบอาชีพให้แก่ผู้ผ่านการบำบัดรักษา ยาเสพติด จำนวน 21 ราย เป็นจำนวนเงินมูลค่า 420,000 บาท ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบัวลอย จังหวัดสระบุรี
นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า รัฐบาลโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูสภาพทางสังคม โดยให้การสนับสนุน และช่วยเหลือ
ผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติดที่มีความต้องการประกอบอาชีพอย่างสุจริต เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ผ่านการบำบัดรักษา และเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้แนวคิด"ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย" และเพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ในระยะยาว
ตามนโยบายของรัฐบาล
นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า สำนักงาน ปปส.ภ.1 ดำเนินการมอบทุนประกอบอาชีพให้แก่ผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด และกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 21 ราย มูลค่ารวม 420,000 บาท เพื่อนำไปจัดซื้อวัสดุ
และอุปกรณ์สำหรับประกอบอาชีพ และสามารถประกอบอาชีพได้อย่าง โดยสำนักงาน ปปส.ภ.1 จะดำเนินการสนับสนุนทุนประกอบอาชีพให้กับ ผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด และกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวกับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ที่ได้รับทุนประกอบอาชีพ จะต้องได้การรับรองจากผู้นำชุมชนด้วย เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และเพื่อเป็นการสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีภายในชุมชน ตลอดจนให้ผู้นำชุมชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ติดตามดูแล เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนว่าผู้ที่ขอรับทุนประกอบอาชีพได้ดำเนินการประกอบอาชีพอย่างสุจริต ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 สำนักงาน ปปส.ภ.1 ได้ดำเนินการสนับสนุนทุนประกอบอาชีพให้แก่ ผู้ผ่านการบำบัดรักษา และกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งหมด 51 ราย เป็นจำนวนเงินมากถึง 1,015,840 บาท โดยแบ่งเป็น ผู้ผ่านการบำบัด 44 ราย เป็นเงินจำนวน 876,740 บาท กลุ่มเสี่ยง 7 ราย เป็นเงินจำนวน 139,100 บาท