​
 

สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมประชุม The International Conference on Narcotics (ICON) ครั้งที่ 12

เพื่อสานต่อความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลี

            เมื่อวันพุธที่ 11 กันยายน ๒๕๖๗ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ นายโชติพันธ์ จุลเพชร นักสืบสวนสอบสวนเชี่ยวชาญสำนักปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่สำนักการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมการประชุม The International Conference on Narcotics (ICON) ครั้งที่ 12 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นวันที่ 2 ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการนำเสนอ การจัดการกับการลักลอบค้าสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทชนิดใหม่ (NPS) ด้วยโปรแกรม INCB GRIDS โดยผู้แทนจากคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ (INCB) การนำเสนอถึงความเสี่ยงและผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์การผลิตเมทแอมเฟตามีนในไนจีเรีย การระบุและสกัดข้อมูลสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้ AI/ML โดยผู้แทนจากอินเดีย การนำเสนอสถานการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดของ NPS โดยผู้แทนจากหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ประเทศเกาหลี การนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติด การแบ่งปันกรณีศึกษา และความท้าทายในการสืบสวนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยผู้แทนจากประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และอินโดนีเซีย

             นอกจากนี้รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และพล.ต.ท อู จองซู ผู้บัญชาการกองบัญชาการสืบสวนแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี (Korean National Police Agency: KNPA) ยังได้ร่วมหารือข้อราชการแบบทวิภาคีเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างกัน โดยนายอภิกิตฯ ได้กล่าวขอบคุณ KNPA ที่ได้ให้การต้อนรับคณะฯ อย่างอบอุ่น และกล่าวชื่นชมรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี และ KNPA สำหรับความมุ่งมั่นตั้งใจในความร่วมมือกับประเทศไทยอย่างดียิ่งตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดผลงานการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ ในห้วงการหารือนายอภิกิตฯ ได้กล่าวถึงนโยบายด้านยาเสพติดในภาพรวมของไทยโดยรัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อลดระดับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ทั้งนี้ในปัจจุบัน เพื่อลดทอนปัญหาการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีการกำหนดพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ครอบคลุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนที่เป็นจุดที่มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเมียนมาและ สปป.ลาว เข้ามายังประเทศไทยเพื่อการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้ามายังพื้นที่ตอนในของประเทศไทย และช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยยังมีการเปิดแผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้กำหนดเป้าหมายลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน 1 ปี ซึ่งได้ผลการปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและจะมีการขยายให้มีการเปิดแผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมกันนี้             นายอภิกิตฯ ยังได้แสดงความพร้อมของสำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะเป็นผู้ประสานความร่วมมือให้กับ KNPA โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงภายใต้กรอบแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย 6 ประเทศ (SMCC) นอกจากนี้ ยังตระหนักถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านยาเสพติดระหว่างประเทศ โดย สนง.ป.ป.ส.ได้ส่งอัครราชทูตที่ปรึกษาไปประจำการ ณ ประเทศเมียนมา ลาว เวียดนาม กัมพูชา และจีน ดังนั้น จึงยินดีสนับสนุนการปฏิบัติงานของ KNPA ประจำ ณ สำนักงาน ป.ป.ส. รวมถึงการขยายระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเสนอรับการสนับสนุนการส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำการ ณ KNPA ในสาธารณรัฐเกาหลีเช่นเดียวกัน การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ โดยเฉพาะด้านการตรวจพิสูจน์ การฝึกอบรม เทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงเสนอการสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีในรูปแบบของการปฏิบัติการร่วม เพื่อยกระดับความร่วมมือในปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลีให้เข้มแข็งมากขึ้น และยังเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของภูมิภาคอีกด้วย

             ทั้งนี้ พล.ต.ท อู จองซู ได้กล่าวขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. ในการสนับสนุนความร่วมมือด้านยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน พร้อมทั้งชื่นชมนโยบายของทางรัฐบาลไทยที่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด เช่นเดียวกับรัฐบาลเกาหลีซึ่งได้มีการปรับปรุงกฎหมายด้านยาเสพติดให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ ในอนาคต พล.ต.ท. อู จองซู เห็นชอบในหลักการที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประสานงานจากสำนักงาน ป.ป.ส. มาประจำ ณ KNPA ขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส.ที่เสนอเป็นสะพานเชื่อมต่อความร่วมมือให้ KNPA กับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อว่าจะเป็นการยกระดับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจน ยินดีพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายตามฝ่ายไทยเสนอโดยผ่านกรอบความร่วมมือ Korea International Cooperation Agency (KOICA) และ Official Development Assistance (ODA) นอกจากนี้ ในห้วงระหว่างการประชุม ICON ผู้แทนสำนักปราบปรามยาเสพติด ยังได้เข้าร่วมการประชุมกลุ่มย่อยว่าด้วย เครือข่ายพันธมิตรในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดเอเชีย (Asian Narcotics Crime Response Alliance: ANCRA) ซึ่งริเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ทำความรู้จักและส่งเสริมประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกันเพื่อร่วมกันจัดการปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดขององค์กรอาชญากรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้แทนแต่ละประเทศได้ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ยาเสพติดภายในประเทศตน พร้อมแบ่งปันข้อมูลเครือข่ายเป้าหมายกลุ่มลักลอบค้ายาเสพติดที่เป็นที่ต้องการในขณะนี้ พร้อมนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีในการประสานงานระหว่างประเทศที่มีความรวดเร็วว่องไว ซึ่งแต่ละประเทศจะนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติการระหว่างประเทศต่อไป