เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้ นายธนากร คัยนันท์ ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้แทนให้การต้อนรับ คณะผู้แทนอัยการ กระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐเกาหลี
ได้แก่ นายชิน ยองซัม นาย แจ กุนยู และนาย อี ซองฮุน ณ ห้องรับรองเภา สารสิน สำนักงาน ป.ป.ส. ในการนี้ นายธนากร ได้กล่าวถึงความร่วมมือด้านยาเสพติดของสำนักงาน ป.ป.ส. กับสาธารณรัฐเกาหลีที่มีมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับสำนักงานอัยการ
สูงสุด (The Supreme Prosecutors’ Office: SPO) ที่ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์การสืบสวนสอบสวน การแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าว การแลกเปลี่ยนการศึกษาดูงาน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประสานงาน SPO มาปฏิบัติงาน
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหายาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับคนไทยในสาธารณรัฐเกาหลีที่พบว่ามีสถิติการจับกุม
ผู้ต้องหาชาวไทยในคดียาเสพติดเพิ่มสูงเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส.พร้อมที่จะยกระดับความร่วมมือในการประสานงานในการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ไปยังสาธารณรัฐเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบลำเลียงผ่านพัสดุไปรษณีย์ภัณฑ์ หรือการลักลอบลำเลียงโดยบุคคล และวิธีการอื่น ๆ รวมถึงขอบคุณเจ้าหน้าที่ประสานงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Korean National Police Agency: KNPA) สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (National Intelligence Service: NIS) สาธารณรัฐเกาหลี ที่ได้ให้การสนับสนุนข้อมูลจนนำไปสู่การจับยึดโทลูอีนจำนวน 90 ตันเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหากใช้โทลูอีนดังกล่าวในการผลิตยาเสพติดจะสามารถผลิตไอซ์ได้ 4,500 กิโลกรัม หรือโคเคน 4,500 กิโลกรัม หรือยาบ้าได้ 270 ล้านเม็ด และ นายธนากร ยังได้ให้ข้อมูลเรื่องประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ซึ่งได้ปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับผลการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ ว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก (UNGASS 2016) โดยยึดหลัก
ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย การนำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ และปรับการลงโทษให้เหมาะสมกับพฤติกรรมในการกระทำความผิด รวมไปถึงการพิจารณาคดีของศาลโดยใช้ดุลยพินิจพิจารณาการลงโทษที่เหมาะสม มาตรการริบทรัพย์สินตามมูลค่า
(Value Based Confiscation) และการยึดทรัพย์สินแบบแทนที่ รวมถึงมีการกำหนดให้การทำลายยาเสพติดของกลางให้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอศาลพิพากษาตัดสินคดี และตามนโยบายยาเสพติดภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ซึ่งมุ่งเน้นให้มีการนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา การสกัดกั้นและปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
หลังจากนั้น ทางคณะผู้แทนอัยการได้รับฟังการบรรยายสรุปโครงสร้างการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ส. และการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคี บทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ในการสืบสวนและดำเนินการทางกฎหมายคดียาเสพติด และสถานการณ์ยาเสพติด
ในประเทศไทย และศึกษาดูงานศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส.
ในห้วงบ่าย คณะผู้แทนอัยการได้ไปศึกษาดูงานสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งคณะผู้แทนอัยการได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ได้ให้การต้อนรับคณะเป็นอย่างดี รวมถึงยินดีที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกับ
สำนักงาน ป.ป.ส.ในทุกด้านและเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศด้านยาเสพติดจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป