ป.ป.ส. จับมือ อปท. จัดอบรมหลักสูตรเข้ม ! เจ้าหน้าที่ ปท. กว่า 350 นาย มุ่งพัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ : 30 พ.ค. 2567 00:00

หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

4 ครั้ง

ป.ป.ส. จับมือ อปท. จัดอบรมหลักสูตรเข้ม ! เจ้าหน้าที่ ปท. กว่า 350 นาย มุ่งพัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ (30 พฤษภาคม 67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ในพิธีเปิดโครงการอบรมหลักสูตร พัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมด้วย พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ดร. ชูพงศ์ คำจวง (อบจ. สกลนคร) นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย บุคคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั่วประเทศ ได้แก่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้อำนวยการ
กองสาธารณสุข ประธานสภาเทศบาลนคร กรุงเทพมหานคร รวมทั้ง มีผู้บริหารจากสมาคมสันนิบาตเทศบาลและสมาคมองค์กรบริหาร
ส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการฯ รวมจำนวนกว่า 400 คน ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยธ. กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเรื่องปัญหายาเสพติด โดยถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข เนื่องจากปัญหายาเสพติดมีผลกระทบที่รุนแรงต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพของประชาชน การลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดจะช่วยปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ด้านความเสี่ยงต่อสังคม ปัญหายาเสพติดสามารถเป็นต้นเหตุของความไม่สมดุลในสังคม เช่น ความรุนแรง การละเมิดกฎหมาย และปัญหาสุขภาพจิต และด้านการพัฒนาชุมชน การแก้ไขปัญหายาเสพติดจะช่วยในการพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญรุ่งเรือง
และมีความเอื้ออำนวยในการพัฒนาต่อไป

นอกจากนี้ รมว.ยธ. ยังได้กล่าวถึง บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่สามารถเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาลและนำไปปรับใช้ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบทบาทสำคัญของอปท. นั้น ประกอบด้วย การจัดทำและดำเนินการตามนโยบายที่เกี่ยวกับปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเหล่านี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนและอบรมบุคลากรในสังกัดเพื่อเพิ่มความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด
และกรอบความคิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน การดำเนินการและติดตามผลการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่
โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเห็นได้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นั้น มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นอย่างมาก

ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงการจัดอบรมโครงการฯ ในครั้งนี้ว่า นับเป็นครั้งแรก ที่สำนักงาน ป.ป.ส.
ร่วมกับ สมาคมองค์กรบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ระหว่างวันที่ 30 - 31 พฤษภาคม 2567 อย่างเป็นทางการ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้น ถือเป็นกำลังสำคัญอย่างมากในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยอำนาจหน้าที่ของ อปท. เป็นไปตามกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนั้น ในวันนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้เชิญวิทยากรจากหลาย ๆ หน่วยงานที่เข้าร่วมอบรม ไม่ว่าจะเป็น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร
สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และวิทยากรจากสำนักงาน ป.ป.ส. มาให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 350 นาย
เพื่อสนับสนุนความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากรในสังกัด อปท. เช่น สถานการณ์ปัญหายาเสพติด กรอบความคิดตาม
ประมวลกฎหมายยาเสพติด บทบาทหน้าที่และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน ต้นแบบการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ
(Best Practice) เป็นต้น

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังการอบรมในวันนี้ หวังว่าบุคลากรของ อปท. ทุกท่านจะได้รับความรู้ความเข้าใจสถานการณ์ปัญหายาเสพติด นโยบาย บทบาทหน้าที่ ระเบียบ และแนวทางการปฏิบัติเป็นอย่างดี สามารถนำไปปรับใช้ตามบริบทในพื้นที่ในการลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล และขอขอบคุณกำลังสำคัญทุกท่านในความร่วมมือครั้งนี้
ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน