นายธนากร คัยนันท์ ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมการประชุม กล่าวแถลงแนวทางความร่วมมือในอนาคตภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ ขอบคุณความพยายามของประเทศสมาชิกในการรับมือและแก้ไขปัญหายาเสพติด ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2567 นายธนากร คัยนันท์ ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วม
การประชุมระดับหน้าที่อาวุโสภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค (กรอบบันทึกความเข้าใจ
7 ฝ่ายฯ) ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย
ในห้วงการประชุม ที่ประชุมรับทราบรายงานผลลัพธ์การประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND)
สมัยที่ 67 จากสำนักงานอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC)
และนายธนากร คัยนันท์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมแบ่งปันความคืบหน้าของประเทศไทยในห้วงการประชุม CND สมัยที่ 67 โดยไทยได้จัดกิจกรรมคู่ขนานและนิทรรศการเพื่อแสดงผลลัพธ์ความสำเร็จการดำเนินงานตามแนวทางพัฒนาทางเลือกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 รวมทั้งผลักดันให้มีการยอมรับข้อมติด้านการพัฒนาทางเลือก แม้จะมีความยากลำบากในการเจรจาสู่การยอมรับข้อมติอย่างเป็นเอกฉันท์ก็ตาม และยังได้แสดงความยินต่อผลสำเร็จในการจัดงานคู่ขนานของ สปป.ลาว ในห้วงการประชุม CND สมัยที่ 67 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สปป.ลาว
ยังได้กล่าวชมเชยความพยายามของไทยในการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน
นายธนากร คัยนันท์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ยังได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงแนวทางความร่วมมือในอนาคตภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ
7 ฝ่ายฯ โดยแสดงความขอบคุณความพยายามของประเทศสมาชิกในการรับมือและแก้ไขปัญหายาเสพติด และยืนยันความมุ่งมั่นในการ
เร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนได้เสนอแนะแนวทางความร่วมมือในอนาคต 3 ประการ ประการแรก เน้นย้ำบทบาทของ UNODC ในการสนับสนุนทางวิชาการและการเสริมสร้างศักยภาพในทุกระดับให้กับประเทศสมาชิก และเสนอให้ UNODC สนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศสมาชิก ในเรื่องการตรวจพิสูจน์เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นของเจ้าหน้าที่ด่านหน้า การจัดการและการทำลายยาเสพติดและสารเคมีอย่างปลอดภัยของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง การปรับปรุงการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลด้านยาเสพติดของประเทศสมาชิก และไทยพร้อมแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านการตรวจพิสูจน์และวิเคราะห์ยาเสพติด ประการที่สอง ให้มีปฏิบัติการเพิ่มมากขึ้นเพื่อทำลายเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยไทยยังคงจะดำเนินความร่วมมืออย่างต่อเนื่องผ่านการดำเนินงานของศูนย์แม่โขงปลอดภัย (SMCC) ต่อไปในอนาคต ประการสุดท้าย เสนอให้เสริมสร้างเครือข่ายที่มีอยู่และเพิ่มเครือข่ายใหม่กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกระดับ และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดการขยายตัวของตลาดลักลอบค้าและอุปสงค์ยาเสพติด รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของความร่วมมือข้ามแดน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของเคมีภัณฑ์สารตั้งต้นไปสู่การลักลอบผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ
ในช่วงท้ายของการประชุม ที่ประชุมสนับสนุนเมียนมาในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับหน้าที่อาวุโสและการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 15 ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ ในปี พ.ศ. 2568 ทั้งนี้การประชุมสิ้นสุดลงด้วยความเป็นมิตรและคณะผู้แทนจากทุกประเทศสมาชิก รวมถึง UNODC ได้ยืนยันคำมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคต่อไป









