เลขาฯ ป.ป.ส. เปิดบ้านต้อนรับผู้ช่วยทูตฯ อินโดนีเซีย ​

เมื่อวันที่ : 5 เม.ย. 2567 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
4 ครั้ง
เลขาฯ ป.ป.ส. เปิดบ้านต้อนรับผู้ช่วยทูตฯ อินโดนีเซีย

20240405-02_news1_01.jpg
 

 
 
          วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 พล.ต.ท. ภาณุรัตน์  หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานให้การต้อนรับ นายวีรก้าลีอาโน  นาฮาน ผู้ช่วยทูตฝ่ายกิจการอัยการ และ พ.ต.อ. เอนดอน  นูร์คาโย ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแนะนำตัว และแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ของเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมทั้งหารือข้อราชการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างประเทศไทยและอินโดนีเซีย ณ สำนักงาน ป.ป.ส 
 
 
          พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนทั้งสองและแสดงความชื่นชมแนวนโยบายด้านยาเสพติด
ของอินโดนีเซีย ที่มีความครอบคลุมปัญหาในทุกด้าน ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม การบำบัดรักษา และความร่วมมือระหว่างประเทศ
อีกทั้ง ตนยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดของไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของยาบ้า ทำให้มีจำนวนผู้มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้เกิดปัญหาความรุนแรงในสังคมเพิ่มมากขึ้น
 
 
          ทั้งนี้ ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เน้นย้ำให้สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินนโยบายเร่งด่วนเพื่อลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดให้เป็นผลภายในระยะเวลา 1 ปี ปฏิบัติการดังกล่าวจะดำเนินการในทุกมิติ โดยใช้มาตรการ
ปลุก เปลี่ยน ปราบ คือ ปลุกชุมชนให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับยาเสพติด เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ปราบปราม สกัดกั้น ยึดทรัพย์ผู้ค้า และจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกทั้ง รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผู้มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติด และสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน 
 
 
          โดยปฏิบัติการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมาก นับตั้งแต่เปิดปฏิบัติการฯ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 84 ล้านเม็ด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับห้วงก่อนการเปิดปฏิบัติการ ประเทศไทยสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า 
 
 
          นอกจากนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ขอบคุณฝ่ายอินโดนีเซียที่ได้ริเริ่มโครงการคณะทำงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าเรือสากลในอาเซียน หรือ ASEAN Seaport Interdiction Task Force (ASITF) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางท่าเรือสากลในอาเซียน ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ยินดีแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานและข้อมูลเกี่ยวกับนักค้ายาเสพติดข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ทั้งสองประเทศ
 
 
          ด้านผู้ช่วยทูตฝ่ายกิจการอัยการและผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจได้กล่าวขอบคุณเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และแบ่งปันข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันสถานการณ์ยาเสพติดของอินโดนีเซียมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นและกระจายไปในชุมชนเช่นเดียวกับประเทศไทย นักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำอินโดนีเซียคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักโทษทั้งหมด มีทั้งที่เป็นผู้ค้าและผู้เสพ ฝ่ายอินโดนีเซียจึงให้ความสนใจในแนวคิด “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ของไทย ที่นำมาใช้เพื่อแก้ปัญหานักโทษล้นเรือนจำ นอกจากนี้ ผู้แทนฝ่ายอินโดนีเซียได้แสดงความชื่นชมและสนใจในแนวทางการดำเนินงานด้านการยึดทรัพย์สินตัดทำลายวงจรเครือข่ายนักค้ายาเสพติดของไทย รวมทั้งผลการดำเนินงานของวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (International Narcotics Control College: INCC) ดังนั้น จึงอยากขอความร่วมมือสำนักงาน ป.ป.ส. ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวข้างต้น และหากประเทศไทยมีหลักสูตรการฝึกอบรมต่าง ๆ ทางฝ่ายอินโดนีเซียยินดีที่จะเข้าร่วมการฝึกอบรม ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ตอบรับด้วยความยินดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และแนวทางการดำเนินงานด้านยาเสพติดกับฝ่ายอินโดนีเซีย
 
 
          โอกาสนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวเชิญผู้แทนอินโดนีเซียเข้าร่วมการศึกษาดูงานของกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศประจำประเทศไทย (Foreign Anti-Narcotics and Crime หรือ FANC) ระหว่างวันพุธที่ 8 - วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 ณ จังหวัดระนอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในแต่ละพื้นที่ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดประเทศต่าง ๆ อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันต่อไป
 
 

20240405-02_news1_02.jpg
 
20240405-02_news1_03.jpg
 
20240405-02_news1_04.jpg
 
20240405-02_news1_05.jpg
 
20240405-02_news1_06.jpg
 
20240405-02_news1_07.jpg
YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ