รัฐมนตรียุติธรรม ชูต้นแบบงานพัฒนาทางเลือกไทยแก้ไขปัญหายาเสพติดในเวทีการประชุม CND สมัยที่ 67 พร้อมร่วมหารือกับข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน ถกประเด็นความก้าวหน้าทรมานอุ้มหาย และการใช้สาธารณสุขนำในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. ตามเวลากรุงเวียนนา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้แทนจากไทย ประกอบด้วย นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายธนากร คัยนันท์ ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผลักดันบทบาทนำของไทยในการดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือก ในการประชุม CND สมัยที่ 67 โดยร่วมเปิดกิจกรรมคู่ขนานของประเทศไทย หัวข้อ “ครบรอบ 10 ปี แนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือก: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” (10 YEARS OF THE UNITED NATIONS GUIDING PRINCIPLE (UNGPs) ON ALTERNATIVE DEVELOPMENT: PAST, PRESENT AND FUTURE) ซึ่งมี บราซิล จีน โคลอมเบีย ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ เยอรมัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เปรู สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ร่วมสนับสนุน พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศสมาชิก ในการปรับใช้แนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือก (UNGPs on AD) ให้เข้ากับสถานการณ์ยาเสพติดของแต่ละประเทศในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทางเลือกต่อไปในอนาคต
จากนั้นเมื่อเวลา 14.30 น. ตามเวลากรุงเวียนนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมพิธีเปิดนิทรรศการภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาทางเลือกของประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน: จากพื้นถิ่นสู่สากล ช่วยพื้นที่สูง ช่วยประเทศ ช่วยโลก” (Thailand’s Alternative Development towards Sustainable Development Goals: From Local to Global. Help the Highlands, Help the Country, Help the World) ซึ่งนำเสนอพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยต่อพัฒนาการการดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือก และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวงกล่าวเปิดนิทรรศการฯ
ในช่วงเย็นเวลา 17.30 น. ตามเวลากรุงเวียนนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้แทนไทย ได้หารือกับ นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนประจำสหประชาชาติ (Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights: OHCHR) โดยผู้แทน OHCHR ได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยต่อความก้าวหน้าของนโยบายยาเสพติดที่คำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชน โดย ปรับกรอบแนวคิดการแก้ไขปัญหายาเสพติดไปสู่การใช้สาธารณสุขนำในการแก้ไขปัญหา มีการให้ทางเลือกให้แก่ผู้เสพยาเสพติด นำผู้เสพเข้าสู่การบำบัดรักษาแทนการลงโทษหรือดำเนินคดี ตามหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” รวมถึงความก้าวหน้าของไทยในเรื่องการห้ามการทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย ตามที่ได้มีการออกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนแนวคิดในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยฝ่ายไทยได้เน้นย้ำนโยบายรัฐบาลปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับหลักการสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรมแลประชาธิปไตย ซึ่งแต่ละประเทศมีบริบทในการบังคับใช้กฏหมายแตกต่างกันตามขนบธรรมเนียม ความเชื่อ สภาวะทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการสร้างความปรองดองและความสามัคคีภายในประเทศ ในการบังคับใช้กฏหมายต่าง ๆ อย่างสมดุลในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางแนวความคิดของประชาชนในสังคม
ทั้งนี้ จากความก้าวหน้าในการดำเนินนโยบายยาเสพติดที่ใช้สาธารณสุขนำและคำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชน โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” รวมถึงความสำเร็จในการดำเนินโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาฝิ่น โดยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ประสบความสำเร็จในเรื่องนี้อย่างยั่งยืน ทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจและการยอมรับจากประเทศต่าง ๆ เกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก
ผู้เขียน : บริษัท โอเพ่นเทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)
ภาพโดย : บริษัท โอเพ่นเทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)