พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้แทนไทย ร่วมแสดงบทบาทนำของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเวทีโลก ชูหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย พร้อมตัดวงจรนักค้า

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับสูงในห้วงการประชุม CND สมัยที่ 67 วันแรก ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ประกาศเจตนารมณ์ไทย
ชูผู้เสพเป็นผู้ป่วย ควบคู่การปราบปรามยึดทรัพย์นักค้าอย่างเด็ดขาด พร้อมพบรัฐมนตรีสิงคโปร์หารือการจัดการปัญหายาเสพติดร่วมกัน
ในระดับอาเซียน
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้แทนไทยจากสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าร่วมการประชุมระดับสูง
ในห้วงการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs : CND) สมัยที่ ๖๗ ซึ่งมีนาย Philbert Johnson เอกอัครราชทูต
ผู้แทนถาวรกานา ประธานประจำองค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา เป็นประธานการประชุมฯ โดยในวันแรก
ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมดังกล่าว โดยได้รับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับสูงฯ ในนามประเทศไทย ให้ความสำคัญกับแนวทาง
การจัดการกับปัญหายาเสพติดโลก โดยมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างกันในทุกระดับ การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล นวัตกรรมทางเทคโนโลยี
และการเสริมสร้างศักยภาพและการระดมทรัพยากร
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ ประกาศการเน้นย้ำถึงนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดรัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่พร้อมทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปราม
ผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัด
อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน
ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ
“ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร นอกจากนี้ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ พร้อมประกาศคำมั่นในนามของประเทศไทยว่า “จะลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดภายในประเทศให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 1 ปี ได้แก่ การส่งเสริมให้ผู้ใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผู้ที่มีอาการจิตเวชได้เข้าถึงบริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสม และจะเพิ่มความเข้มข้นในความพยายามสกัดกั้นตามแนวชายแดน
เพื่อหยุดยั้งการลักลอบค้ายาเสพติดและสารเคมี และเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกระดับเพื่อจัดการกับความท้าทายในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมั่นคงอย่างยั่งยืน”
ด้านพลตรี คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบและหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ สาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาวได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศอาเซียน โดยแสดงความมุ่งมั่นในการจัดการกับปัญหายาเสพติดในภูมิภาค เพื่อบรรลุเป้าหมาย
สังคมปลอดยาเสพติด และอาเซียนปลอดยาเสพติด ผ่านการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการป้องกันและบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดโดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนการดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือก
ต่อมา เวลาประมาณ 10.45 น. ตามเวลากรุงเวียนนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะฯ ได้พบหารือทวิภาคีกับ นางโจเซฟีน เตียว (Mrs Josephine Teo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนที่สอง (Minister for Communications and Information & Second Minister for Home Affairs) โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนทัศนะในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และยืนยันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้แสดงความยินดีกับสิงคโปร์ที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก CND และกล่าวถึงความร่วมมือในอนาคตเกี่ยวกับการรวบรวมงานวิจัยด้านการระบาดและอันตรายจากยาเสพติดจากทั่วโลก โดยขณะนี้ประเทศไทยสนใจการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยาที่ใช้ทดแทนยาบ้า
การประชุมระดับสูงในห้วงการประชุม CND สมัยที่ 67 จัดขึ้นจนถึงวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย จากนั้นจะเป็นการประชุมสมัยสามัญระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า (18 – 22 มีนาคม)



