ป.ป.ส. หารือ กทม. เตรียมการพื้นที่ sandbox ดูแลผู้ถูกคุมประพฤติและผู้พ้นโทษคดียาเสพติดก่อนกลับสู่สังคม

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในการประชุมหารือเตรียมการก่อนปล่อย
ผู้ถูกคุมประพฤติและผู้พ้นโทษคดียาเสพติดกลับสู่สังคม โดยมีนายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม แพทย์หญิงภาวิณี
รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายแพทย์ธนัช พจน์พิศุทธิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด
นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ผอ.ปปส.กทม.) พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาคี
ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ผู้แทนสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ผู้แทนกรมคุมประพฤติ ผู้แทนกรมราชทัณฑ์ และผู้แทนกรมพินิจ
และคุ้มครองเด็กและเยาวชน เข้าร่วมหารือ ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)
ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเสนอแนวทาง วิธีการ ขั้นตอน ก่อนการปล่อยตัวนักโทษ ผู้พ้นโทษ ก่อนกลับลงสู่ชุมชน/สังคม หารือ
หาแนวทางการติดตามดูแลผู้ถูกคุมประพฤติและผู้พ้นโทษคดียาเสพติด เพื่อให้กลับคืนสู่สังคมได้ โดยนำชุมชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล หรือที่เรียกว่า การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (Community. Based Treatment and Rehabilitation: CBTx) รวมถึงเร่งยกระดับการปฏิบัติงานเชิงพื้นที่ และการปรับเปลี่ยนทัศนคติของสังคมเป็นสำคัญ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
มีนโยบายลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติด ซึ่งได้มีความเป็นห่วงและเน้นย้ำถึงการส่งคืนผู้พ้นโทษคดียาเสพติด
หรือผู้เสพยาเสพติดกลับคืนสู่ชุมชนต้องมีสถานที่พักคอยเพื่อเตรียมพร้อมป้องกันการกลับสู่วงจรยาเสพติดซ้ำหรือการก่อปัญหาในสังคม
ให้น้อยที่สุด และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้จัดทำโครงการเพื่อให้โอกาสผู้ถูกคุมประพฤติ
และผู้พ้นโทษคดียาเสพติดกลับสู่สังคม ได้แก่ โครงการ “แก้ปัญหานักโทษล้นคุก” โดยให้มีแนวปฏิบัติต่อผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี
ให้เป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรือนจำและทัณฑสถาน (SOPs)
โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. มีกิจกรรมส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาผู้ต้องขังที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในพื้นที่ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ต้องขังเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว เป็นปัจจัยในการสร้างการยอมรับจากสังคม เน้นย้ำให้ผู้ต้องขัง นอกจากที่จะดูแลตัวเองได้แล้วต้องสามารถดูแลครอบครัวได้ด้วย มุ่งหวังให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ เลี้ยงครอบครัว กลายเป็นพลังที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมได้
โดยทางสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้เสนอพื้นที่ต้นแบบกำกับดูแลเป็นการเฉพาะหรือ Sandbox ในเขตพื้นที่ชุมชนวังโสม เขตบางกะปิ และเขตพื้นที่สวนหลวง ที่มีความพร้อมของชุมชนในการดูแลผู้ถูกคุมประพฤติและผู้พ้นโทษคดียาเสพติดกลับสู่สังคม ด้วยคนในชุมชนมีความเข้มแข็ง มีสภาพแวดล้อมที่พร้อมดูแล และมีทัศนคติที่พร้อมให้โอกาส ทั้งนี้หากพร้อมดำเนินการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจับร่วมมือร่วมกับชุมชน ในการดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน ที่สำคัญคือความปลอดภัย ซึ่งผลจากการจัดทำพื้นที่เฉพาะเพื่อดูแลผู้ถูกคุมประพฤติและผู้พ้นโทษคดียาเสพติดก่อเข้าสู่สังคมนี้ จะเป็นผลดีต่อการขยายแนวทางไปยังเขตพื้นที่อื่นต่อไป







