​

          วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมพิจารณารับฟังความคิดเห็นต่อการปรับแก้ไขประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติด เงินตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พร้อมด้วย นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายอำนาจ เหล่ากอที ผู้อำนวยการ กองกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส. ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
สำนักงบประมาณ กรมการปกครอง กรมศุลกากร กองทัพบก กองทัพเรือ และกองบัญชาการกองทัพไทย ณ ห้องประชุม กฤษณะ ผลอนันต์
สำนักงาน ป.ป.ส. และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ

          พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ยกร่างระเบียบการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติด เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การปราบปรามยาเสพติด
ในปัจจุบัน รวมถึงนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ที่ยกให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ต้องร่วมบูรณาการร่วมกับภาคประชาชนให้การแก้ไขปัญหาเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยการประชุมวันนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อนำข้อคิดเห็นจากมาเป็นประโยชน์ในการปรับเปลี่ยนระเบียบให้เหมาะสม

          พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การแก้ไขระเบียบการจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าว เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดในการต่อสู้กับขบวนการค้ายาเสพติด สร้างแรงจูงใจในการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน และให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ที่ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ การปรับแก้ระเบียบยังครอบคลุมถึงเงินรางวัลสำหรับพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสการค้ายาเสพติดและนำไปสู่การจับกุม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยภาครัฐในการแก้ไขปัญหายาเสพติดก็จะมีเงินรางวัลค่าตอบแทนในส่วนนี้ด้วย ซึ่งหากระเบียบมีผลบังคับใช้
จะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป

          โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการปรับอัตราการจ่ายเงินค่าตอบแทนสูงสุดต่อคดีจากเดิมไม่เกิน 250,000 บาท เปลี่ยนเป็นไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่งประชาชนผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินค่าตอบแทนเพิ่ม โดยประชาชนผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับ 75% และเจ้าหน้าที่ได้รับ 25%
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนองนโยบาย “ปลุก เปลี่ยน ปราบ” ปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ปราบ สกัดกั้น ยึดทรัพย์ผู้ค้า
ขจัดเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพลพัวพันยาเสพติด

          นอกจากนี้ได้เห็นชอบในปรับหลักเกณฑ์ที่ครอบคลุมถึงการจ่ายเงินค่าตอบแทนกรณียึดยาเสพติด กรณีจับผู้ต้องหาพร้อมยึดยาเสพติด และการจ่ายเงินช่วยเหลือเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับอันตรายจากการปฏิบัติงานด้านยาเสพติด  โดยให้รับข้อสังเกตจากผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้อง ก่อนปรับร่างเพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ ต่อไป และเมื่อมีผลบังคับใช้จะมีการติดตามเพื่อให้แน่ใจว่ามีผลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่และสังคม