ไทยร่วมประชุมระหว่างสมัย ครั้งที่ 2 ของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs : CND) สมัยที่ 66 วันที่สาม

เมื่อวันที่ : 7 ธ.ค. 2566 00:00

หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

2 ครั้ง

ไทยร่วมประชุมระหว่างสมัย ครั้งที่ 2 ของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs : CND) สมัยที่ 66 วันที่สาม

เมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมคณะผู้แทนไทยหน่วยงานภาคี เข้าร่วมการประชุมระหว่างสมัย ครั้งที่ 2 ของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 66 เป็นวันที่สามในรูปแบบออนไลน์

ในช่วงเช้าของการประชุมได้พูดคุยในประเด็น ความพร้อมในการใช้ประโยชน์สารที่อยู่ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และการวิจัย รวมถึงการบรรเทาความเจ็บปวด

คณะผู้แทนไทยได้ร่วมอภิปรายโดยย้ำถึงเจตนารมณ์ของไทยสำหรับปฏิบัติตามพันธกรณีการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ การเฝ้าระวังการใช้สารเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่อยู่ภายใต้การควบคุมเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีการพัฒนาและวิจัยเพื่อผลิตยาในกลุ่มยาเสพติดให้โทษประเภท 2 และวัตถุออกฤทธิ์ประเภท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางยา เพิ่มความพร้อมใช้ เพิ่มปริมาณยาสำรองในประเทศทั้งในสภาวะปกติและสภาวะฉุกเฉิน

โดยนายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถ้อยแถลงของไทย ในประเด็นอภิปรายต่อที่ประชุม เรื่อง “แนวทางการดำเนินการ
ในอนาคตของประเทศไทย” ต่อประเทศสมาชิกในที่ประชุมกว่า 120 ประเทศ

ใจความว่า “ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาตามหลักสมดุล คือ บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดครอบคลุมในทุกมิติ

และนำหลักความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาร่วมด้วยกันกับนโยบายด้านสาธารณสุขบนพื้นฐานของหลัก
แห่งความรับผิดชอบร่วมที่เน้นให้ประชาชนเข้าเป็นศูนย์กลางของการแก้ไขปัญหา และรัฐบาลไทยได้ยกให้ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบาย
เร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อจะได้สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและนำความปลอดภัยมาสู่ประชาชน

“สำหรับการดำเนินงานของไทยตามพันธกรณีเป้าหมายปี ค.ศ. 2029 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ไทยได้ให้ความสำคัญกับการ
ดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือก ที่เชื่อว่าสามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาพืชเสพติดและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมถึง
ยาเสพติดชนิดสังเคราะห์ พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามแนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกต่อไป”