ป.ป.ส. ร่วมประชุมทวิภาคีไทย-อินโดนีเซีย ด้านการควบคุมยาเสพติด ครั้งที่ 2

เมื่อวันที่ : 30 พ.ย. 2566 00:00

หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

2 ครั้ง

ป.ป.ส. ร่วมประชุมทวิภาคีไทย-อินโดนีเซีย ด้านการควบคุมยาเสพติด ครั้งที่ 2

เมื่อวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2566 นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยพร้อมด้วย ผอ.สวพ. ผอ.สกต. และผู้แทน สพป. สปป. สกต. สลก. และ ปปส.ภ.5 เข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย - อินโดนีเซีย ด้านการควบคุมยาเสพติด ครั้งที่ ๒
ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมี ดร. อะกุส อิเรียนโต รองหัวหน้าหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดอินโดนีเซีย (National Narcotics Board: BNN) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนอินโดนีเซีย

การประชุมฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำกับติดตามสถานการณ์ปัญหายาเสพติดของไทยและอินโดนีเซีย แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านยาเสพติดระหว่างกัน และหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือที่จะดำเนินการร่วมกันในอนาคต ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของไทยและอินโดนีเซีย

นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวว่า รัฐบาลไทยชุดใหม่ให้ความสำคัญกับประเด็นยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
โดยรัฐบาลพยายามลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดภายในระยะเวลา 1 ปี และจะเปิดตัวแคมเปญ “Quick Win” ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ตั้งเป้าบรรลุเป้าหมายใน 100 วัน แคมเปญดังกล่าวมุ่งที่จะเร่งแก้ไขปัญหาผู้มีอาการทางจิตเวชจากยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน และดำเนินมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดโดยการกำหนดพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5(10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ในพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 3 แห่ง
คือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และนครพนม เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่ประเทศไทย

ในระหว่างการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดของแต่ละประเทศ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การป้องกันยาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
การตรวจพิสูจน์สารเสพติด และโดยเฉพาะการพัฒนาทางเลือก ที่ฝ่ายไทยได้นำเสนอเกี่ยวกับแนวคิดและผลการดำเนินงานด้านการพัฒนา
ทางเลือกในประเทศไทย ซึ่ง ดร. อะกุส อิเรียนโต รองหัวหน้าหน่วย BNN ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณและชื่นชมประเทศไทยสำหรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาทางเลือกในพื้นที่อาเจะห์ ทำให้อินโดนีเซียสามารถนำองค์ความรู้ด้านการพัฒนาทางเลือก
มาพัฒนาและต่อยอดในการทำลายพืชเสพติด โดยเฉพาะกัญชาที่ปลูกในหลายพื้นที่ของอินโดนีเซีย และอินโดนีเซียยินดีที่จะสนับสนุนบทบาทนำของไทยในด้านการพัฒนาทางเลือกในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในกรอบของอาเซียนและสหประชาชาติ ผ่านการจัดกิจกรรมคู่ขนาน (side event) ในห้วงการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) และการจัดทำร่างข้อมติที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ฝ่ายอินโดนีเซียยังให้ความสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสำรวจพืชเสพติดในประเทศไทย และแนวทางการควบคุมการใช้กัญชาในประเทศไทย ซึ่งนายธนากร คัยนันท์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ยืนยันว่าการปรับปรุงกฎหมายของประเทศไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกัญชานั้น เป็นไปเพียงเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น มิได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างเสรีเพื่อการสันทนาการ และขณะนี้ประเทศไทยกำลังเร่งออกกฎหมายอนุบัญญัติเพื่อรองรับการควบคุมการใช้กัญชาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวอย่างเข้มงวดต่อไป

ในส่วนของความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด อินโดนีเซียได้เสนอแนวคิดที่จะให้มีปฏิบัติการร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดร่วมกัน เช่น อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีพรมแดนทางทะเลเชื่อมโยงถึงกันและได้รับผลกระทบจากยาเสพติดที่ถูกลักลอบลำเลียงทางทะเลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในห้วงที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มศักยภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ไทยและอินโดนีเซียยังได้ยืนยันความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันต่อไปในอนาคต

โอกาสนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้ศึกษาดูงาน ณ โรงพยาบาลจิตเวช (Mental Hospital) เมืองบาหลี ซึ่งเป็นสถานที่บำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยใช้แนวคิดการมีส่วนร่วมระหว่างครอบครัวกับโรงพยาบาล (Family-Based) ในการแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะส่งผู้ป่วยกลับคืนสู่ครอบครัว ชุมชน และสังคม ตลอดจนดูแลติดตามผู้ป่วยภายหลังการบำบัดรักษา โดยส่วนใหญ่ยาเสพติดที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดรักษา ได้แก่ ไอซ์ กัญชา และแอลกอฮอล์ เป็นต้น ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับจากการศึกษาดูงานในครั้งนี้จะนำไปปรับใช้กับการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาผู้มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติดในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน
และความสงบเรียบร้อยของสังคมไทยในปัจจุบันต่อไป