พร้อมรับปิดผับตี 4 บิ๊กหลวงนั่งหัวโต๊ะ หารือหน่วยงานพื้นที่ กทม. เพื่อร่วมกันหาแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานบันเทิงปลอดยาเสพติด

เมื่อวันที่ : 29 พ.ย. 2566 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
2 ครั้ง
พร้อมรับปิดผับตี 4 บิ๊กหลวงนั่งหัวโต๊ะ หารือหน่วยงานพื้นที่ กทม. เพื่อร่วมกันหาแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานบันเทิงปลอดยาเสพติด

20231129-01_news1_01.jpg

 

         วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายขยายเวลาเปิดสถานบริการพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.ฝอ.5 บก.อก. ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นายสุนทร  สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย  กรุงเทพมหานคร และนายนิพนธ์  ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 36 ราย ร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม Command Centre อาคาร 2 ชั้น 4 สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง


         โดยการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางการปฏิบัติงานสำหรับหน่วยงานภาคีภายใต้กลไก ศูนย์อำนวยการป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร หรือ ศอ.ปส.กทม. เพื่อเตรียมแนวทางและมาตรการในการควบคุมเพื่อความปลอดภัยของสังคม และปัญหายาเสพติด ตามนโยบายการขยายเวลาเปิดสถานบริการถึง 04.00 น. ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี


         ซึ่งจากข้อมูลพบว่ายาเสพติดที่มักจะตรวจพบในสถานบันเทิงต่าง ๆ  และเป็นที่นิยมในหมู่นักเที่ยวราตรี คือ ยาอี คีตามีน Happy water จากสถิติปี 2566 ได้มีการตรวจพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบันเทิง ในพื้นที่ กทม. ถึง 8 ร้าน และพบเรื่องร้องเรียน
ยาเสพติดในสถานบันเทิงกว่า 27 เรื่อง ในพื้นที่ 16 เขต


         พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า “รัฐบาลได้มีมาตรการขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม
เป็นหน้าที่ของ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร หรือ ศอ.ปส.กทม. และ สำนักงาน ป.ป.ส. ในการควบคุม
ให้สถานประกอบการที่ได้รับการอนุญาตดังกล่าวดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของสังคม  


         พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า มาตรการควบคุมต้องทำอย่างเคร่งครัด หากพบสถานบริการใดมีการปล่อยปละละเลย ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ ให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานที่ของตนเอง เช่นปล่อยให้มีการมั่วสุม ครอบครอง ซื้อขายยาเสพติด ตน ในฐานะ เลขาธิการ
ป.ป.ส. สามารถใช้อำนาจในกรณีเร่งด่วน พิจารณาสั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือสั่งปิดสถานบริการชั่วคราว ครั้งละไม่เกิน 30 วัน ตามมาตรา 57
ของประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกลงโทษเช่นกันไม่มีการละเว้น

 
         หลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กทม. ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย บช.น. ป.ป.ส. กรมควบคุมโรค และ กทม. รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการใน 3 มาตรการ คือ

         1. มาตรการบุคคล ควบคุมดูแล สอดส่อง พนักงานสถานประกอบการไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดพร้อมจัดทำข้อมูลประวัติ
         2. มาตรการสถานที่ ให้มีการจัดทำป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์พิษภัยของยาเสพติด
         3. มาตรการเฉพาะ คือเมื่อการพบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ทำบันทึกรายงานแจ้งต่อเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.


         และจะมีการร่วมมือกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดประชุมชี้แจงผู้ประกอบการ เรื่อง มาตรการควบคุมการขยายเวลาเปิด
สถานบริการเพื่อป้องกันผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและปัญหายาเสพติด ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566

 

20231129-01_news1_02.jpg

20231129-01_news1_03.jpg

20231129-01_news1_04.jpg

20231129-01_news1_05.jpg

20231129-01_news1_06.jpg

20231129-01_news1_07.jpg

20231129-01_news1_08.jpg

20231129-01_news1_09.jpg

20231129-01_news1_10.jpg

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ