วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 3 (นครราชสีมา) ผอ.ปปส.ภาค 4 (ขอนแก่น) ผอ.ปปส.ภาค 5 (เชียงใหม่)
และ ผอ.ปปส.ภาค 6 (พิษณุโลก)
เข้าเยี่ยมคารวะ พลตรีคำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ/หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ และหัวหน้ากรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อหารือข้อราชการเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ได้มีการหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติดร่วมกับ ผอ.ปปส.ภาค 3 ภาค 4 ภาค 5 และภาค 6 ด้านบริเวณชายแดนฝั่งไทยที่มีพื้นที่ติดกับทาง สปป.ลาว และความร่วมมือระหว่างสองประเทศเรื่องยกระดับ
ความร่วมมือด้านสกัดกั้นเคมีภัณฑ์และยาเสพติด ไม่ให้เข้าไปยังแหล่งผลิตในประเทศภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และประเทศที่สาม”
โดย พลตรีคำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง ได้ขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของไทย ที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังเป็นอย่างสูง และกล่าวว่าทาง สปป.ลาว ได้ประกาศให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการลาวมีการดำเนินการอย่างจริงจัง และขอบใจไทยที่ให้การสนับสนุนทั้งทางด้านงบประมาณ และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านยาเสพติดระหว่างกัน
ท้ายนี้ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวขอบคุณ สปป.ลาว ที่ได้สกัดกั้นยาเสพติดและสารเคมีให้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ยาเสพติดไม่เข้าสู่ประเทศไทย และพร้อมจะร่วมมือกับหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสปป.ลาว ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และกล่าวทิ้งท้ายว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้มีโอกาสไปดูงานที่แขวงบ่อแก้ว ในพื้นที่จัดเก็บยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ที่มีหลายร้อยตัน พบว่ามีปัญหาเรื่องการเก็บรักษาและการเผาทำลาย ที่ทั้ง 3 ประเทศ ทั้ง ลาว เมียนมา และไทย ได้เคยหารือกันว่า จะนำปัญหานี้ไปนำเสนอต่อที่ประชุม UN
เพื่อให้นานาประเทศได้ร่วมมือกันในการทำลายเคมีภัณฑ์และยาเสพติด ที่ทำมาจากเคมีภัณฑ์ เพื่อไม่ให้เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
โดยทางการไทย และ สปป.ลาว จะมีการจัดประชุมทวิภาคีในปลายเดือนมีนาคม 2566 นี้ ในครั้งนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการ
จัดประชุม รวมถึงได้นำเสนอความก้าวหน้าในเรื่องการยึดทรัพย์สินที่มาจากการค้ายาเสพติด และนำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ของไทย
ซึ่งทาง สปป.ลาว ก็เห็นด้วยกับการพัฒนาแนวทางดังกล่าว