เลขาฯวิชัย เปิดห้องแล็บ ป.ป.ส.เตรียมตรวจพิสูจน์ไอซ์ ชี้ขั้นตอนตั้งแต่จับถึงเผาทำลายยาเสพติดรัดกุม ตรวจสอบได้ และประมวลกฎหมายยาเสพติดช่วยให้ทำลายยาเสพติดได้เร็วขึ้น

เมื่อวันที่ : 6 ม.ค. 2566 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
5 ครั้ง
เลขาฯวิชัย เปิดห้องแล็บ ป.ป.ส.เตรียมตรวจพิสูจน์ไอซ์ ชี้ขั้นตอนตั้งแต่จับถึงเผาทำลายยาเสพติดรัดกุม ตรวจสอบได้ และประมวลกฎหมายยาเสพติดช่วยให้ทำลายยาเสพติดได้เร็วขึ้น

20230106-01_oncbthai_01.jpg

 

          วันที่ 5 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงข่าว รับของกลาง ไอซ์ 757.7 กิโลกรัม จากตำรวจภูธรฝาง และนำส่งการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ณ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ทุ่งสองห้อง กรุงเทพมหานคร

          ของกลางไอซ์ทั้ง 4 คดี เป็นคดีที่มาจากการสกัดกลุ่มลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย บริเวณชายแดน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ในห้วงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 - 15 ธันวาคม 2565 รวมจำนวน 4 คดี เป็นของกลางไอซ์จำนวน 711 ถุง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม
ทั้งหมดประมาณ 757.7 กิโลกรัม

          จากการวิเคราะห์ ลักษณะหีบห่อ รูปแบบ และเส้นทางการค้นของกลางทั้ง 4 คดี มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมาจากแหล่งผลิต
และขบวนการค้าเดียวกัน อย่างไรก็ตามในขั้นแรกต้องผ่านการตรวจพิสูจน์โดยละเอียด เพื่อให้สามารถยืนยันว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) เพื่อใช้ประโยชน์ในการตัดสินคดีในชั้นศาล จากนั้นข้อมูลที่ได้จากการตรวจพิสูจน์ของกลางยาเสพติดจะถูกนำมาวิเคราะห์และ จัดทำเป็น
ฐานข้อมูลลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug profile) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการยกย่องในเวทีสหประชาชาติ ว่าเป็นศูนย์กลางด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด
ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับสารประเภทเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า และไอซ์)

          เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เผยถึงขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ว่ากระบวนในการ จับยึดยาเสพติด การส่งยาเสพติดของกลางไปตรวจพิสูจน์และเผาทำลายนั้น เข้มงวด รัดกุม โดยขั้นตอนตั้งแต่ การจับยึด การนำส่งยาเสพติดที่ยึดให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวน
นำยาเสพติดของกลางส่งสถานตรวจพิสูจน์ สถานตรวจพิสูจน์รับยาเสพติดของกลางไว้ตรวจพิสูจน์ภายในเวลาที่กำหนดพร้อมรายงานผล
การตรวจพิสูจน์ การนำของกลางจากการตรวจพิสูจน์ไปเก็บรักษา และการนำยาเสพติดที่เก็บรักษาออกมาทำลาย ทุกขั้นตอนไม่มีการ
ดำเนินการด้วยบุคคลเดียว แต่กระทำโดยคณะบุคคลที่มีการตรวจสอบในแต่ละขั้นตอน ดังนั้นหากเกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง จะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง และพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังได้สั่งการให้มีการลดระยะเวลา
จากในอดีตที่มีการเก็บของกลางหลังการตรวจพิสูจน์เป็นเวลานานกว่าจะถึงขั้นตอนการทำลาย ทำให้สิ้นเปลือง งบประมาณและพื้นที่ในการ
จัดเก็บ โดยในอดีตของกลางไม่สามารถเผาทำลายได้หากคดียังไม่สิ้นสุด ทำให้บางคดี เก็บของกลางไว้กว่า 10 ปี ซึ่งปัจจุบันประมวลกฎหมายยาเสพติด ได้กำหนดให้ ส่งทำลายได้ทันทีหลังจากตรวจพิสูจน์และคณะกรรมการมีความเห็นชอบให้ทำลายได้ โดยไม่ต้องรอให้มีคำสั่งศาลยึดซึ่งทำให้ลดระยะเวลาในการเก็บรักษา ซึ่งเป็นการลดภาระประเทศอีกทางหนึ่ง

          เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า ข้อมูลที่ได้จากการตรวจพิสูจน์ของกลางยาเสพติดหรือ Drug profile สำคัญต่องานยาเสพติดในหลายด้านทำให้ทราบถึง ส่วนผสมทางเคมี ข้อมูลทางกายภาพของเม็ดยา หีบห่อบรรจุ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบหาเส้นทางแหล่งที่มาของยาเสพติด การเท่าทันต่อสถานการณ์ยาเสพติดที่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสม และการสร้างยาเสพติดชนิดใหม่ๆของขบวนการค้ายาเสพติด การตรวจพิสูจน์ยังเป็นประโยชน์ในด้านการเฝ้าระวังสารตั้งต้น ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ที่ผู้ผลิตยาเสพติดมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหลบหนีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน เช่นในกรณีของ การควบคุมสารโซเดียมไซยาไนด์ สารเบนซิลคลอไรด์ และสารเบนซิลไซยาไนด์ ที่ถูกลักลอบนำไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเพิ่มมากขึ้น
 

 

20230106-01_oncbthai_02.jpg

20230106-01_oncbthai_03.jpg

20230106-01_oncbthai_04.jpg

20230106-01_oncbthai_05.jpg

20230106-01_oncbthai_06.jpg

20230106-01_oncbthai_07.jpg

20230106-01_oncbthai_08.jpg

20230106-01_oncbthai_09.jpg
 


 
YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ