​

          นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เผยผลการประชุมภายใต้โครงการ Global Synthetics Monitoring: Analyses, Reporting, and Trends (Global SMART)  สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในรูปแบบ
ไฮบริด ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ร่วมกันจัดระหว่างวันที่ 13 – 15 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรม Pullman Bangkok Grande Sukhumvit กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยน สถานการณ์ ประสบการณ์ และการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับพัฒนาการและแนวโน้มการลักลอบค้ายาเสพติดสังเคราะห์และสารตั้งต้นในภูมิภาค รวมถึงการแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ ผ่านการพัฒนาระบบการเฝ้าระวังยาเสพติด ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า และการพิจารณาแนวปฏิบัติเพื่อจัดการและทำลายสารเคมีที่ใช้
ในการผลิตยาเสพติดอย่างปลอดภัย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน จากประเทศสมาชิกในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสำนักงานประสานงานข่าวกรองของศุลกากร ในเอเชียและแปซิฟิก (Regional Intelligence Liaison Office: RILO) รวมถึงผู้แทนจากประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งเข้าร่วมสังเกตการณ์

          โดยวันแรกของการประชุม เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุม ในรูปแบบวีดิทัศน์ โดยกล่าวแสดงความยินดี
และขอบคุณ UNODC ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดให้มีประชุมเป็นประจำทุกปี และได้เน้นย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่สมดุล ทั้งการลด
อุปสงค์ และอุปทานยาเสพติด มีการดำเนินการทั้งในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การปราบปรามและทำลายเครือข่ายผู้ค้าและผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่ การเพิ่มการยึดทรัพย์ รวมถึงการริบทรัพย์สินตามมูลค่า และการป้องกันการรั่วไหล
ของเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นไปสู่การลักลอบผลิตยาเสพติด ตลอดจนการใช้แนวทางสาธารณสุขนำในการดำเนินนโยบายยาเสพติด และ
ลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด

          ด้าน นาย Jeremy Douglas ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กล่าวเปิดการประชุม โดยชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในภูมิภาคที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จากการปรับตัวของเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่ทำให้เกิดภาวะยาเสพติด
ล้นตลาด แม้จะมีการจับกุมได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพบยาเสพติดชนิดใหม่ ๆ และเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือในภูมิภาคในการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้า ยาเสพติดสังเคราะห์ และสารตั้งต้น ซึ่งข้อมูลที่ได้แลกเปลี่ยนระหว่างกันในการประชุมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการ
ทำความเข้าใจแนวโน้มสถานการณ์และกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างกันต่อไป รวมไปถึงให้ความสำคัญกับการกลไกการแจ้งเตือน
ล่วงหน้า และมาตรการการจัดการและการกำจัดสารเคมีและสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด และการรักษาสิ่งแวดล้อม

          นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงการประชุมครั้งนี้ว่า “ สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักปราบปรามยาเสพติด สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด และสำนักพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้ร่วมรายงานแนวโน้มสถานการณ์และพัฒนาการของการลักลอบค้ายาเสพติดสังเคราะห์และ สารตั้งต้นในประเทศไทย โดย “ยาบ้า”ยังคงเป็นตัวยาสำคัญที่มีการกระทำผิดและมีผู้เกี่ยวข้องมากที่สุดในประเทศไทย ยาบ้าที่จับกุมได้เกือบร้อยละ 60 บรรจุอยู่ในหีบห่อประทับตรา 999 อย่างไรก็ตาม สถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษาลดลง นอกจากนี้
ยังพบการแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิดใหม่ เรียกว่า “Happy Water” ซึ่งมีลักษณะเป็นผงและพบหลากหลายสี ประกอบด้วยสารเสพติด
หลายชนิด อาทิ  MDMA คีตามีน ไดอาซีแพม แอมเฟตามีน และนีเมทาซีแพม

          ทั้งนี้ ในห้วงปีที่ผ่านมาพบการจับกุมในหลายคดี ทั้งที่ซื้อ-ขายผ่านโซเชียลมีเดีย และการลักลอบนำเข้ามาผ่านชายแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงซุกซ่อนมากับพัสดุภัณฑ์จากประเทศในยุโรป สำหรับสถานการณ์การลักลอบลำเลียงยาเสพติด พบว่า มีการลักลอบนำยาบ้าเข้ามาในประเทศลดลง โดยร้อยละ 50 เข้ามาทางชายแดนภาคเหนือ และร้อยละ 30 เข้ามาทางชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นเดียวกับสถานการณ์การลักลอบนำเข้าไอซ์ที่ลดลง อีกทั้งยังมีการจับกุมการลักลอบค้ายาเสพติดทางทะเลด้านอ่าวไทย ทะเลอันดามัน และชายแดนทางทะเลระหว่างไทยกับมาเลเซีย ตลอดจนบริเวณท่าอากาศยานระหว่างประเทศได้จำนวนหลายคดี 

 

          นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวโดยสรุปว่า “จากสถานการณ์ยาเสพติดที่มีแหล่งผลิต ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำซึ่งเป็นพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ทำการปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมายทำได้ยาก ประเทศในภูมิภาครวมถึง UNODC ต่างเห็นพ้องกัน และมีมาตรการร่วมกันในการลดปัจจัยการผลิตให้ได้มากที่สุด คือ การสกัดกั้นสารตั้งต้นไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิต และสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัย
ยาเสพติดในประเทศของตน เพื่อลด Demand หรือความต้องการยาเสพติด ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเครือข่ายนักขายยาเสพติด
เพื่อร่วมมือกันจัดการกับนักค้ายาเสพติด รวมทั้ง การขยายผลยึดทรัพย์ให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยข้อมูลที่ได้แลกเปลี่ยนระหว่างกันในการประชุมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดมาตรการในการป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติดระหว่างกันต่อไป"