​
 

               นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสาธารณรัฐเกาหลี และผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าร่วมการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ป.ป.ส. เพื่อติดตามความคืบหน้าการนำเสนอคดีลักลอบขนยาเสพติดในรูปแบบพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศพบของกลาง          ยาเสพติด เป็นไอซ์ น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมตรวจยึดได้ที่สาธารณรัฐเกาหลีเมื่อ ปี 2564 ซึ่งเมื่อขยายผลพบว่ามีต้นทางส่งมาจากประเทศไทยจนสามารถขยายผลไปสู่การจับกุม ผู้ส่งพัสดุไปรษณีย์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนขยายผลให้ถึงระดับผู้สั่งการที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

               นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์เทพสุทิน ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยตามประมวลกฎหมายยาเสพติด กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับคนไทยไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในต่างประเทศ ต้องได้รับโทษในประเทศตามมาตรา 124 ผู้ใดกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด                แม้การกระทำนั้นจะเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักรผู้นั้นจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักร ถ้าปรากฏว่าผู้กระทำความผิดหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกันคนใดคนหนึ่งเป็นคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งในกรณีดังกล่าวสามารถที่จะยึดทรัพย์ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งขบวนการ รวมทั้งดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดแม้ว่าจะเป็นความผิดราชอาณาจักรไทยก็ตาม ซึ่งขณะนี้สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ยึดทรัพย์ทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดไปแล้วกว่า 9,200 ล้านบาท เชื่อไม่เกินปลายปีงบประมาณ จะสามารถยึดทรัพย์ได้เกินกว่า 10,000 ล้านบาท ” 

              “ในตอนท้ายการประชุม เจ้าหน้าที่จากสาธารณรัฐเกาหลีได้กล่าวขอบคุณ สำนักงาน ป.ป.ส. ที่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวน   ผู้กระทำความผิดในประเทศไทย และร่วมกันปราบปรามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดไทย-เกาหลี โดยขอให้คงความร่วมมืออันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีร่วมกันต่อไป  ซึ่งหากมีกรณีคดีที่เกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐเกาหลีในอนาคต สำนักงาน ป.ป.ส. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำการสืบสวนคดียาเสพติดร่วมกันอย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัญหายเสพติดยังคงพบว่า มีความพยายามในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในรูปแบบต่างๆ จากประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐเกาหลีอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยจะพยายามในการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ถูกลำเลียงไปยังต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็จะสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดภายในประเทศด้วย และเร่งสืบสวนขยายผลทำลายเครือข่ายให้ถึงระดับสั่งการ เพื่อขจัดยาเสพติดไปหมดสิ้น” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย