รมว.ยุติธรรมมอบนโยบายปราบยาเสพติดตำรวจภาคเหนือตอนล่าง ภายใต้ยุทธการ"พาลีปราบยา" หวังทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันก้าวสู่แผนบันไดขั้นที่ 2 เน้นยึดทรัพย์ตัดวงจรมากกว่าจำนวนเม็ดยา เชื่อฝีมือทุกคนทำได้ตามเป้าหมาย

เมื่อวันที่ : 12 เม.ย. 2564 00:00
หน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
7 ครั้ง
รมว.ยุติธรรมมอบนโยบายปราบยาเสพติดตำรวจภาคเหนือตอนล่าง ภายใต้ยุทธการ"พาลีปราบยา" หวังทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันก้าวสู่แผนบันไดขั้นที่ 2 เน้นยึดทรัพย์ตัดวงจรมากกว่าจำนวนเม็ดยา เชื่อฝีมือทุกคนทำได้ตามเป้าหมาย

somsak1-12-04-64-1.jpg
 

                 วันที่ 12 เมษายน 2564 เวลา 09.00 ที่ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน “การมอบนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง​”  ภายใต้ยุทธการ พาลีปราบยา สืบสวน ขยายผล ยึดทรัพย์สิน เครือข่ายยาเสพติด โดยมี นายวิรุฬพรรณเทวี ผู้ว่าราชการสุโขทัย พล...อภิชาติ ศิริสิทธิ์      ผบช.ภาค พล...พยูฬ์ ธนะศรีสืบวงศ์ รองผบช.ภาค นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ..นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย    นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายชูศักดิ์  คีรีมาศทอง ..สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ผู้บังคับการในสังการตำรวจภูธรภาค 6 ข้าราชการตำรวจและตัวแทนกองทุนแม่ของแผ่นดินร่วมงาน


 

                 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในแนวทางของรัฐบาลได้ดำเนินการแนวทางของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาโดยตลอด และดำเนินการมาในรูปแบบคล้ายกันแทบทุกรัฐบาล และเราเห็นว่าปัญหาปราบยาเสพติด ยิ่งปราบยิ่งเยอะ ทำให้เราต้องคิดและดำเนินการว่าจะทำอย่างไรให้น้อยลง การดำเนินการตรงนี้ในมาตรการของการปราบปรามยาเสพติดไม่ได้มีแค่ส่วนนี้ส่วนเดียว การแพร่ระบาดของยาทำให้มีคนติดคุกจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้ต้องขังคดียาเสพติดถึง 80% ทำให้คนล้นคุกเกิดความแออัด ซึ่งตนได้เข้าไปแก้ปัญหาให้ความแออัดลดน้อยลง คนค้ายาส่วนใหญ่สมองดี เป็นนักธุรกิจ ค้าขาย อยากได้เงินเร็ว บางคนทำผิดซ้ำถึง 9 ครั้ง วิธีการที่เราจับอย่างเดียวอาจไม่สัมฤทธิ์ผลสถิติปีหนึ่งมูลค่ายาเสพติดจากสามเหลี่ยมทองคำมากถึง 2.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเราจับมาเผากันไม่ไหว โรงงานผลิตอยู่นอกประเทศเรา เรามีความร่วมมือกับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ จับมือร่วมกันปราบปรามสารตั้งต้น แต่ตนยังไม่พอใจเพราะเราจับได้แต่ยา ที่ผ่านมาเรายึดเงินจากผู้ค้ายาได้ไม่เกิน 600 ล้านบาทต่อปี แต่เราใช้งบบูรณาการ 6,000 กว่าล้านบาท ดังนั้นเราจึงต้องเน้นการขยายผลการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด


 

                  นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในอีกส่วนคือเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ที่เรากำลังจัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งจะทำให้งานต่างๆมีความคล่องตัวมากขึ้น และเราต้องมีการให้ความรู้กับเด็กและเยาวชน การสร้างความปลอดภัยให้กับหมู่บ้านเก็บข้อมูลสืบสาวเรื่องไปต้นตอใหญ่ และเราจะต้องมีการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด และสุดท้ายมาตรการทุกอย่างจะต้องบูรณาการร่วมกัน ในอดีตรัฐบาลแก้ปัญหาแต่ปลายเหตุ ตนหารือกับ ...ว่าที่ทำมาเป็นบันไดขั้นที่ 1 วันนี้เราจะขึ้นบันไดขั้นที่ 2 หากประมวลกฎหมายยาเสพติดผ่านรัฐสภา เราจะมีประสิทธิภาพมาขึ้นในการป้องกันปราบปราม วันนี้เราตั้งเป้าการยึดทรัพย์ยาเสพติดไว้ 6,000 ล้านบาท      และได้ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษ "พาลีปราบยามี 16 คณะ ทำงานและประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์ แต่เดิมตัวชี้วัดเราดูที่เม็ดยา แต่ตนได้ขอเปลี่ยนเป็นการยึดทรัพย์เป็นหลัก  ในวันนี้ท่านมองดูอาจจะยากเพราะยังไม่เคยทำ แต่เรามีฐานข้อมูลต่าง ๆอยู่แล้ว


 

                  "การปราบปรามยาเสพติด เกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ท่านทั้งหลายไม่ต้องหนักใจกับเป้าหมายการยึดทรัพย์  หากท่านฟังเราอธิบายสัก 1-2 สัปดาห์ก็ทำได้แล้ว ซึ่งทุกท่านมีฝีมือในการทำงานค่อย ๆสาวจากรายเล็กไปยังราบใหญ่ เชื่อว่าทุกท่านทำได้อย่างแน่นอน ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มารับฟังนโยบายรัฐบาล เราพร้อมปรับเปลี่ยนและพัฒนาเพื่อลูกหลานชาวไทย กับบันไดขั้นที่ 2 ที่เรากำลังจะก้าวขึ้นไป หากมีข้อสงสัยตรงจุดใดสามารถสอบถามมาได้เลยเราพร้อมที่จะช่วยอธิบายให้ทุกท่านได้เข้าใจนายสมศักดิ์ กล่าว

somsak1-12-04-64-4.jpg
 

somsak1-12-04-64-3.jpg
 

somsak1-12-04-64-5.jpg
 

somsak1-12-04-64-6.jpg
 

somsak1-12-04-64-2.jpg
 

somsak1-12-04-64-7.jpg

YouTube Instagram TikTok X Threads search download
Q&A FAQ